ข่าว/ประกาศกองทุน
โปรโมชัน/กองทุนแนะนำ
โปรโมชัน! สับเปลี่ยน LTF ไป Thai ESG/RMF 2568
รับเพิ่ม หน่วยลงทุน KFCASH-A มูลค่า 0.2% ของยอดเงินสับเปลี่ยนตั้งแต่บาทแรก*
ตั้งแต่ 12 มี.ค. 68 เป็นต้นไป หากทำรายการสับเปลี่ยน LTF ไปยัง Thai ESG/RMF หรือกองทุนอื่น ไม่ว่าจำนวนเงินเท่าใดก็ตาม ท่านจะไม่สามารถสับเปลี่ยน LTF ที่เหลือไปยังกองทุน Thai ESGX เพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษีได้
เปิดโอกาสให้เงินลงทุนใน LTF ได้เติบโตต่อ ด้วยการย้ายไปลงทุนในกองทุน Thai ESG หรือ RMF ได้รับประโยชน์คุ้มๆ 2 ต่อ
ต่อที่ 1 เงินลงทุนจะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี ตามเกณฑ์ของ Thai ESG และ RMF
เปิดโอกาสให้เงินลงทุนใน LTF ได้เติบโตต่อ ด้วยการย้ายไปลงทุนในกองทุน Thai ESG หรือ RMF ได้รับประโยชน์คุ้มๆ 2 ต่อ
- ให้คุณวางแผนลดภาษีโดยไม่ต้องลงทุนด้วยเงินก้อนใหม่
- มีทางเลือกในการลงทุนเปิดกว้างมากขึ้น ด้วย Thai ESG ที่มีทั้งกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ ESG และ RMF ที่มีนโยบายการลงทุนให้เลือกหลากหลาย ทั้งตราสารหนี้ กองทุนผสม หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ รวมถึงสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ
รับหน่วยลงทุน KFCASH-A มูลค่า 0.2% ของยอดเงินสับเปลี่ยนตั้งแต่บาทแรก*
โปรดตรวจสอบเงินลงทุนที่ท่านได้จะรับสิทธิลดหย่อนภาษีตามเกณฑ์ เพื่อไม่ให้สับเปลี่ยนเกินสิทธิ์
Thai ESG และ RMF กรุงศรี ทุกกองทุนลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาท
ข้อมูลกองทุน คลิก: Thai ESG | RMF
*รายละเอียด/เงื่อนไขการลงทุนและรับสิทธิ์ในโปรโมชันสับเปลี่ยนกองทุน LTF
- รายการส่งเสริมการขายนี้สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF)* ของบลจ.กรุงศรี ที่เป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น (*เฉพาะกองทุนรวมหุ้นระยะยาวที่ใช้เป็นค่าลดหย่อนภาษีเงินได้ ตามประกาศกรมสรรพากร)
- ผู้ลงทุนสามารถทำรายการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุน LTF มายังกลุ่มกองทุน Thai ESG และ RMF ที่บริหารโดย บลจ.กรุงศรี ทุกกองทุน (ยกเว้นกองทุน KFCASHRMF และกองทุน ThaiESG/RMF ที่จะ IPO ใหม่ในปี 2568 ที่บริษัทอาจจะประกาศยกเว้นภายหลัง) โดยต้องเป็นรายการสับเปลี่ยนเข้าระหว่างวันที่ 25 ก.พ. – 30 ธ.ค. 68 เท่านั้น โดยยอดสับเปลี่ยนเข้าในแต่ละกองทุนจะนำมารวมกันตลอดระยะเวลาส่งเสริมการขาย
- ยอดเงินสับเปลี่ยนที่เข้าเงื่อนไข คำนวณจาก ยอดเงินสับเปลี่ยนสะสมจากกองทุน LTF ของ บลจ.กรุงศรีมายัง ThaiESG/RMF ในช่วงที่ร่วมรายการ หักด้วย ยอดเงินลงทุนที่ผิดเงื่อนไข ซึ่งได้แก่ รายการขายคืน/สับเปลี่ยนออกไปยังกองทุนที่ไม่ร่วมรายการ/โอนออกไปยัง บลจ.อื่น โดยบริษัทฯจะนำยอดดังกล่าวมาหักออกจากยอดเงินสับเปลี่ยนสะสม
- กรณีที่กองทุน Thai ESG/RMF ซึ่งผู้ลงทุนได้สับเปลี่ยนเงิน LTF เข้ามานั้นมีหน่วยลงทุนเดิมอยู่แล้ว และผู้ลงทุนมีการขายคืน สับเปลี่ยนออก หรือโอนออกจากจำนวนหน่วยลงทุนที่มีอยู่ก่อนนั้น จะไม่ถือว่าผิดเงื่อนไขของรายการส่งเสริมการขายนี้ โดยบริษัทจะใช้วิธีคำนวณหน่วยที่ทำรายการขายคืน/สับเปลี่ยน/โอนออกนี้แบบเข้าก่อนออกก่อน (FIFO)
- ผู้ลงทุนจะต้องถือหน่วยลงทุนกองทุน Thai ESG/RMF ที่สับเปลี่ยนจาก LTF จนถึงวันที่ 31 มี.ค. 69 ซึ่งเป็นวันที่บริษัทจะทำการคำนวณยอดเงินสับเปลี่ยนสะสมสุทธิ เพื่อรับสิทธิ์ในหน่วยลงทุนกองทุน KFCASH-A
- ในกรณีที่ผู้ลงทุนมีบัญชีกองทุนมากกว่า 1 บัญชี บริษัทจะทำการนับเงินยอดสับเปลี่ยนสุทธิจากทุกบัญชีรวมกัน โดยพิจารณาจากเลขบัตรประจำตัวประชาชนเป็นหลัก
- บริษัทจะทำการโอนหน่วยลงทุน KFCASH-A ตามเงื่อนไขการสับเปลี่ยนและการรับสิทธิ์ภายในวันที่ 30 เม.ย. 69 โดยมีมูลค่าหน่วยลงทุนกองทุน KFCASH-A ณ วันที่ทำการโอน
- ผู้ลงทุนที่ได้รับสิทธิจากรายการส่งเสริมการขายนี้แล้ว จะไม่ได้รับสิทธิในรายการส่งเสริมการขายอื่นๆ ในปี 2568 ของบริษัทอีก
- การสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของผู้ลงทุนที่เป็นนิติบุคคล สถาบัน และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะไม่เข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายนี้
- บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของรายการส่งเสริมการขายโดยมิต้องแจ้งล่วงหน้า ในกรณีมีข้อพิพาท คำตัดสินของบริษัทถือเป็นที่สุด
คู่มือการลงทุน Thai ESG/RMF คลิกที่นี่
- RMF ลงทุนเพื่อเกษียณอายุ | Thai ESG เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการออมระยะยาวและสนับสนุนการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย
- ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน | ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน
หรือตัวแทนสนับสนุนการขาย/ เจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
แนะนำกองทุน RMF และ Thai ESG
กองทุนตราสารหนี้
ตราสารหนี้ระยะกลางKFAFIXRMF (กรุงศรีแอคทีฟตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ)
- ลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง เน้นตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีคุณภาพดี ด้วยการบริหารพอร์ตแบบ Active มีความยืดหยุ่นในการสัดส่วนการลงทุน
- โอกาสในการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มที่น่าสนใจเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต หลังภาพรวมอัตราดอกเบี้ยนโยบายเกือบทุกประเทศทั่วโลกได้เข้าสู่วัฎจักรอัตราดอกเบี้ยขาลงแล้ว นำโดยกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว และเป็นแรงสนับสนุนต่อแนวโน้มการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่
- เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น และสามารถรับความผันผวนได้ปานกลาง
KFSINCRMF (กรุงศรีโกลบอลสมาร์ทอินคัมเพื่อการเลี้ยงชีพ)
KFSINCFXRMF (กรุงศรีโกลบอลสมาร์ทอินคัมเอฟเอ็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ)
- ลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund ที่มุ่งเน้นการสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอจากการลงทุน จากการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้หลายประเภททั่วโลก ผสมผสานระหว่างตราสารที่มีคุณภาพสูงกับตราสารที่ให้ผลตอบแทนสูง ทั้งตราสารหนี้ภาครัฐ หุ้นกู้เอกชน Investment Grade และ High yield รวมถึงตราสารหนี้ที่มีอสังหาค้ำประกัน (MBS) /สินทรัพย์ค้ำประกัน (ABS) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดี ยั่งยืนและสม่ำเสมอ พร้อมช่วยลดความผันผวนจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและดอกเบี้ย
- KFSINCRMF ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
- KFSINCFXRMF ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
กองทุนหุ้นไทย
KFS100RMF (กรุงศรี SET100 เพื่อการเลี้ยงชีพ)
- มีเป้าหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี SET100 โดยความผันผวนของส่วนต่างผลตอบแทนเฉลี่ยของกองทุนและดัชนีชี้วัดไม่เกิน 1.00% ต่อปี
- โอกาสสร้างการเติบโตไปพร้อมกับการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากเงินทุนของกองทุนวายุภักษ์ และปัจจัยด้านการเมืองที่มีความชัดเจนมากขึ้น รวมไปถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
ที่มา: บลจ.กรุงศรี ณ ต.ค. 67
กองทุนหุ้นต่างประเทศ
หุ้นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก
KFGBRANRMF (กรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้เพื่อการเลี้ยงชีพ)
- ลงทุนในหุ้นบริษัทเจ้าของแบรนด์ชั้นนำที่มีลูกค้าทั่วโลก มีเนวโน้มที่จะมีรายได้สม่ำเสมอ จากการที่ลูกค้ามี Brand Loyalty สูง
- หุ้นกลุ่มนี้เป็น Defensive Stocks ที่ทนทานต่อวัฎจักรเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มสุขภาพ และเทคโนโลยี ที่ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ลูกค้าก็ยังต้องซื้อต้องใช้
- กองทุนหลัก Morgan Stanley Investment Funds – Global Brands Fund มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ด้วยการเฟ้นหาบริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไรสูง ซึ่งมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในช่วงตลาดขาขึ้น และสามารถปกป้องความเสี่ยงของเงินลงทุนในช่วงตลาดขาลง
- ตัวอย่างหุ้น Microsoft, SAP, Visa, Accenture, Aon เป็นต้น (ที่มา: Morgan Stanley Investment Management ณ 31 ส.ค. 67)
- KFUSINDFXRMF (กรุงศรียูเอสอิควิตี้อินเด็กซ์เอฟเอ็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ): คว้าโอกาสสร้างผลตอบแทนจาก 500 บริษัทชั้นนำของสหรัฐ ไปกับ S&P 500 ดัชนีมาแรงแห่งปี ในจังหวะที่ใช่ด้วยแรงหนุนทั้งจากเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง ทิศทางดอกเบี้ยขาลง และนโยบายเศรษฐกิจของว่าที่ประธานาธิดีโดนัลด์ ทรัมป์
- KFNDQRMF (กรุงศรีเอ็นดีคิวอินเด็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ): โอกาสโตไปกับ Nasdaq-100 ดัชนีดาวรุ่งในทศวรรษแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรม แหล่งรวมหุ้นบิ๊กเทค เช่น กลุ่มบริษัท Magnificent 7 ได้แก่ Apple, Microsoft, Alphabet, Amazon, META, Tesla และ Nvidia
- KFWINDXRMF (กรุงศรีเวิลด์อิควิตี้อินเด็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ): โอกาสลงทุนใน MSCI ACWI Index ดัชนีตัวแทนของตลาดหุ้นโลก ครอบคลุมทั้งตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ กระจายหลากหลายกลุ่มธุรกิจ ในจังหวะที่ภาพรวมเศรษฐกิจและหลากหลายปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของตลาดหุ้นโลก
กองทุนผสม รวมครบทุกสินทรัพย์
- KF1MILDRMF (กรุงศรี The One Mild เพื่อการเลี้ยงชีพ) เน้นลงทุนตราสารหนี้ ความผันผวนน้อย
- KF1MEANRMF (กรุงศรี The One Mean เพื่อการเลี้ยงชีพ) ลงทุนในตราสารหนี้ และหุ้นรวมกับสินทรัพย์ทางเลือกในสัดส่วนเท่ากัน ความผันผวนปานกลาง
- KF1MAXRMF (กรุงศรี The One Max เพื่อการเลี้ยงชีพ) เน้นลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์ทางเลือก ความผันผวนสูง
กองทุน Thai ESG
- KFTHAIESG เติบโตไปกับหุ้น ESG พร้อมโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าดัชนี
- KFGBTHAIESG โอกาสเติบโตมั่นคงกับพันธบัตรไทย ESG
- RMF ลงทุนเพื่อเกษียณอายุ | Thai ESG เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการออมระยะยาวและสนับสนุนการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย
- ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน | ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน
- KFAFIXRMF เน้นลงทุนในประเทศและ/หรือต่างประเทศ ในตราสารหนี้และ/หรือเงินฝาก หรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงิน โดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และ/หรือภาคเอกชน ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ | ระดับความเสี่ยง 4: เสี่ยงปานกลางค่อนข้างต่ำ
- KF1MILDRMF ลงทุนในหน่วย CIS ของกองทุนหลัก "กองทุนเปิดกรุงศรี The One Mild ชนิดผู้ลงทุนสถาบัน (KF1MILD-I)" บริหารจัดการโดยบริษัทจัดการ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม และ/หรือกองทุนรวม ETF ทั้งใน/หรือต่างประเทศที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างอย่างน้อย 2 กองทุน | ระดับความเสี่ยง 5: เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง
- KF1MEANRMFลงทุนในหน่วย CIS ของกองทุนหลัก "กองทุนเปิดกรุงศรี The One Mean ชนิดผู้ลงทุนสถาบัน (KF1MEAN-I)" บริหารจัดการโดยบริษัทจัดการ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม และ/หรือกองทุนรวม ETF ทั้งในและ/หรือต่างประเทศที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง อย่างน้อย 2 กองทุน | ระดับความเสี่ยง 5: เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง
- KF1MAXRMF ลงทุนในหน่วย CIS ของกองทุนหลัก "กองทุนเปิดกรุงศรี The One Max ชนิดผู้ลงทุนสถาบัน (KF1MAX-I)" บริหารจัดการโดยบริษัทจัดการ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุน กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม และ/หรือกองทุนรวม ETF ทั้งในและ/หรือต่างประเทศที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง อย่างน้อย 2 กองทุน | | ระดับความเสี่ยง 5: เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง
- KFGBRANRMF ลงทุนในกองทุนหลัก Morgan Stanley Investment Funds - Global Brands Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง: 6 – เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- KFNDQRMF ลงทุนในกองทุนหลัก Invesco NASDAQ 100 ETF โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี NASDAQ-100 ซึ่งประกอบด้วยหุ้นของบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ที่ใหญ่ที่สุดตามราคาตลาดจำนวน 100 บริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ | ระดับความเสี่ยง: 6 – เสี่ยงสูง
- KFSINCRMF/ KFSINCFXRMF ลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนหลักกระจายการลงทุนไปในตราสารหนี้ประเภทต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนทั่วโลกอย่างน้อย 2 ใน 3 ของ NAV | ระดับความเสี่ยง: 5 – เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง
- KFUSINDFXRMF ลงทุนในกองทุนหลัก iShares Core S&P 500 ETF โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P 500 เพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 บริษัทที่บริหารจัดการกองทุนหลัก คือ BlackRock Fund Advisors | ระดับความเสี่ยง: 6 – เสี่ยงสูง
- KFWINDXRMF ลงทุนในกองทุนหลัก iShares MSCI ACWI ETF โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี MSCI ACWI เพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี บริษัทที่บริหารจัดการกองทุนหลัก คือ BlackRock Fund Advisors | ระดับความเสี่ยง: 6 – เสี่ยงสูง
- KFTHAIESG ลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุน ได้แก่ หุ้นที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน SET และ/หรือ MAI ที่ 1) ได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือองค์กรหรือสถาบันอื่นที่สำนักงาน ก.ล.ต. ยอมรับว่ามีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม หรือด้านความยั่งยืน (ESG) และ/หรือ 2) ที่มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แผนการจัดการและการตั้งเป้าหมายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย รวมทั้งจัดให้มีการทวนสอบการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์โดยผู้ทวนสอบที่สำนักงาน ก.ล.ต. ยอมรับ | ระดับความเสี่ยง: 6 – เสี่ยงสูง
- KFGBTHAIESG ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรที่กระทรวงการคลังคํ้าประกันต้นเงินและดอกเบี้ย หุ้นกู้ที่กระทรวงการคลังคํ้าประกันต้นเงินและดอกเบี้ยแต่ไม่รวมถึงหุ้นกู้แปลงสภาพ หรือลงทุนในตราสารภาครัฐอื่นใด ซึ่งเป็นพันธบัตรหรือหุ้นกู้หรือตราสารเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (green bond) พันธบัตรหรือหุ้นกู้หรือตราสารเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) หรือพันธบัตรหรือหุ้นกู้หรือตราสารส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability - linked Bond) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง: 6 – เสี่ยงสูง
- สำหรับ KFUSINDFXRMF จะไม่ใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ส่วน KF1MILDRMF/ KF1MEANRMF/ KF1MAXRMF/ KFGBRANRMF*/ KFNDQRMF/ KFSINCFXRMF และ KFWINDXRMF จะป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน กองทุนเหล่านี้จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ (*โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยไม่ต่ากว่า 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ)