วางแผนการลงทุน
โอกาสและความท้าทายของเศรษฐกิจไทย
ดร. ฐนิตพงศ์ ชื่นภิบาล
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารความเสี่ยงด้านการลงทุน บลจ.กรุงศรี จำกัด
15 กันยายน 2568
หลังจากที่เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เติบโตได้ดี จากแรงหนุนของการส่งออกที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ อันเนื่องมาจากการที่ผู้ประกอบการเร่งส่งออกและนำเข้าก่อนที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจในภาพรวมในช่วงครึ่งแรกของปีกลับเป็นไปในทิศทางที่ไม่สดใสนัก เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวชะลอตัวลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยจากกรณีแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ และแผ่นดินไหว กอปรกับเศรษฐกิจจีนอ่อนแอและรัฐบาลจีนสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ นอกจากนี้ การบริโภคภาคเอกชนซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่ในประเทศ และสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชะลอตัวลงต่อเนื่อง สอดคล้องกับรายได้ของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ และผลกระทบจากพายุฝนและน้ำท่วมที่มาเร็วกว่าปกติ
ทั้งนี้ การที่ตัวเลขจีดีพีอาจไม่สะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่แท้จริงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ดังเช่นที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ที่ตัวเลขจีดีพีออกมาดีกว่าที่คาด แต่ความรู้สึกของผู้บริโภคและผู้ประกอบการกลับรู้สึกว่าเศรษฐกิจแย่มาก รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาต่ำ แต่ผู้บริโภคกลับรู้สึกว่าของแพงขึ้นมาก
อย่างไรก็ดี หลังจากที่มีการเปิดโผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งประกอบไปด้วยรัฐมนตรีคนนอกที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากหลายฝ่าย กอปรกับมีการเผยทิศทางการดำเนินมาตรการทางเศรษฐกิจบางส่วน ซึ่งสะท้อนถึงการไม่ปิดกั้นที่จะนำนโยบายที่ดีในอดีตกลับมาใช้โดยไม่ยึดติดว่าเป็นนโยบายของใคร และจะใช้แพล็ตฟอร์มที่มีอยู่แล้วโดยไม่ต้องสร้างใหม่ ซึ่งจะทำให้การดำเนินนโยบายทำได้อย่างรวดเร็ว ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคเริ่มแสดงความเชื่อมั่นต่อทิศทางเศรษฐกิจมากขึ้น
สำหรับเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ตัวเลขจีดีพีมีแนวโน้มชะลอตัวลงตามการชะลอตัวของการส่งออก เนื่องจากมีการเร่งตัวไปแล้วในช่วงครึ่งแรกของปี ส่งผลให้ผู้นำเข้าในต่างประเทศไม่จำเป็นต้องนำเข้าสินค้าในปริมาณมาก กอปรกับมาตรการภาษีของสหรัฐส่งผลให้การค้าในตลาดโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยถึงแม้หากศาลสหรัฐมีคำตัดสินว่ามาตรการภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ประธานาธิบดีทรัมป์ก็ยังคงมีทางเลือกอื่นอีกมากที่จะนำมาใช้ในการขึ้นภาษีประเทศคู่ค้า อย่างไรก็ดี ตัวเลขการส่งออกในไตรมาส 3 อาจหดตัวไม่มาก เนื่องจากยังคงเติบโตได้ดีในช่วงต้นไตรมาส
ในด้านการท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงที่ผ่านมา โดยเป็นผลจากการที่มีบางประเทศอยู่ในช่วงปิดเทอม ในขณะที่การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวอาจเป็นไปอย่างช้าๆและมีอุปสรรคมากขึ้น สังเกตได้จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนในครั้งนี้มีความล่าช้าเมื่อเทียบกับการเกิดเหตุการณ์ในอดีตที่ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง กอปรกับฤดูร้อนในยุโรปและหลายประเทศที่มีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวยุโรปเลือกที่จะเดินทางไปยังประเทศที่มีอากาศเย็นสบายแทนการเดินทางมาไทย ซึ่งกลายเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวแบบใหม่ของชาวยุโรปที่เรียกว่า Coolcation
สำหรับมุมมองในด้านบวก ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการและผู้บริโภคที่มีแนวโน้มดีขึ้น น่าจะช่วยให้เกิดการบริโภคและการลงทุนมากขึ้น โดยความชัดเจนของมาตรการภาษีของสหรัฐส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนการลงทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ ในขณะที่การนำมาตรการ “คนละครึ่ง” กลับมาใช้ น่าจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้เป็นวงกว้าง รวมถึงคาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆเพิ่มเติม และอาจมีการประกาศโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ในขณะที่ การลงทุนจากต่างประเทศในด้านเทคโนโลยี เช่น ดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ อาจมีมากขึ้น นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงินของ ธปท. มีแนวโน้มที่จะลดดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งการที่มีความชัดเจนว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า ส่งผลให้คาดว่าจะมีเงินที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้ง เช่น ค่าทำป้ายหาเสียง ค่าจ้างทีมงานหาเสียง เป็นต้น เข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น
ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่ตัวเลขจีดีพีของไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะออกมาแย่กว่าในช่วงครึ่งแรกของปี รวมถึงในช่วงครึ่งแรกของปี 2569 มีแนวโน้มว่าจีดีพีของไทยจะออกมาเป็นลบ ซึ่งหมายความว่าเศรษฐกิจหดตัว แต่ผู้ประกอบการและผู้บริโภคกลับมีความรู้สึกว่าเศรษฐกิจดีขึ้น
จากมุมมองด้านเศรษฐกิจที่ดีขึ้น น่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย โดยถึงแม้ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดของปีนี้มามากแล้ว แต่ยังคงมีผลตอบแทนเป็นลบเมื่อเทียบกับช่วงสิ้นปีก่อนหน้า และยังคงปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลก กอปรกับการเลือกตั้งมักจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้น
ในส่วนของตราสารหนี้ ในปีนี้กองทุนตราสารหนี้ระยะกลางและระยะยาวให้ผลตอบแทนที่ดี และยังคงมีแนวโน้มจะสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่องจากทิศทางดอกเบี้ยที่เป็นขาลง
ทั้งนี้ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ประเมินความเสี่ยงการลงทุนและความสามารถในการรับความเสี่ยงของท่านก่อนการตัดสินใจลงทุน และผลตอบแทนการลงทุนในอดีตไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต
กองทุนกรุงศรีแนะนำ
- กองทุนตราสารหนี้ คลิก: KFAFIX / KFENFIX / KFAFIXRMF
- กองทุนหุ้นไทย คลิก: KFDYNAMIC / KFDNM-D / KFTSTAR-A / KFTSTAR-D / KFDNMRMF / KFSTARRMF
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
สามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี โทร. 02-657-5757 หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา
พบทุกคำตอบเรื่องเงินที่ Krungsri The Coach คลิกที่นี่
สามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี
โทร. 02-657-5757 หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา