ลงทุนอย่างไร...เมื่อตราสารหนี้ไทยอยู่ในความผันผวน

• ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากองทุนตราสารหนี้ไทยระยะกลาง-ยาว ทำไมถึงปรับตัวลง? 
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับตัวลดลงเป็นอย่างมากเป็นเวลาหลายเดือน และผู้ลงทุนในตลาดต่างมองหาเหตุผลในการทำกำไรเพื่อรอจังหวะกลับเข้าสะสมใหม่เมื่ออัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับที่ดีขึ้น ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของไทยนโยบายของรัฐบาลใหม่ที่มีแนวโน้มจะทำให้มีหนี้รัฐบาลเพิ่มขึ้น กระแสการไถ่ถอนของกองทุนตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาวจากนักลงทุนรายย่อย และการแข็งค่าของเงินบาท ล้วนเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการเทขายในตลาดตราสารหนี้ในช่วงที่ผ่านมา
  • การเทขายของนักลงทุนส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น จะทำให้มูลค่าของกองทุนตราสารหนี้ ปรับตัวลง เพราะราคาพันธบัตรที่กองทุนถืออยู่ปรับตัวลง
• ผู้จัดการกองทุนมองว่าเป็นการขายทำกำไร เพื่อรอกลับเข้าสะสมใหม่เมื่ออัตราผลตอบแทนอยู่ในระดับที่ดีขึ้น

• แนะนำให้ถือกองทุนต่อได้ตามระยะเวลาที่เหมาะสมของแต่ละกองทุน 
  • KFSMART แนะนำลงทุนตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป
  • KFAFIX แนะนำลงทุนตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป
  • KFENFIX แนะนำลงทุนตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป
• ผู้จัดการกองทุนมองว่า เนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยไทยยังอยู่ในทิศทางขาลง และดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสปรับลดลงสู่ระดับ 1.00% ได้ภายในครึ่งแรกของปี 2569 ดังนั้น จึงแนะนำกองทุน KFSMART สำหรับผู้ที่ต้องการเลือกกองทุนตราสารหนี้ที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อยจากการปรับขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรในช่วงนี้ และต้องการสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมจากเครดิต เนื่องจากกองทุนมี duration เฉลี่ยน้อยกว่า KFAFIX และ KFENFIX

• ทีมผู้จัดการกองทุนเน้นสะสมพันธบัตรสกุล USD เพราะให้ผลตอบแทนน่าสนใจกว่าพันธบัตรไทย ขณะเดียวกันการเทขายพันธบัตรไทยในช่วงที่ผ่านมา อาจเป็นโอกาสกลับเข้าลงทุนเมื่อผลตอบแทนสูงขึ้น แต่ยังต้องระวังแรงไถ่ถอนจากนักลงทุนไทย จึงอาจต้องกันสภาพคล่องไว้มากขึ้นเพื่อรองรับความเสี่ยง

• ผู้จัดการกองทุนยังคงเชื่อว่ากองทุนตราสารหนี้ที่บริหารแบบ Active สามารถนำเสนอโอกาสที่ดีกว่าในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นภายในกรอบระยะเวลาการลงทุนที่แนะนำ
• กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นอาจจะให้ผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะสั้นเท่านั้น แต่ไม่สามารถให้ผลตอบแทนส่วนเพิ่มตามรอบการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ หากอ้างอิงจากการคาดการณ์ของบลจ.กรุงศรี ที่คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะอยู่ในช่วง 0.75 - 1.25% ในช่วงปี 2568 - 2570 ผู้จัดการกองทุนจึงยังแนะนำให้ถือ KFAFIX และมองหาโอกาสในการทยอยเพิ่มการลงทุนเมื่อตัว NAV ปรับลดลง

• เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• KFSMART เน้นลงทุนในประเทศ และ/หรือต่างประเทศ ในตราสารหนี้ และ/หรือ เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝากที่ออก รับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงิน โดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และ/หรือภาคเอกชน ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสาร อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) ระดับความเสี่ยง 4 – เสี่ยงปานกลาง ค่อนข้างต่ำ | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของจำนวนเงินลงทุนในต่างประเทศ)
• KFAFIX เน้นลงทุนในประเทศและ/หรือต่างประเทศในตราสารหนี้ และ/หรือ เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ที่ออกรับรองรับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงิน โดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และ/หรือภาคเอกชน ซึ่งอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ และอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ หรือที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ระดับความเสี่ยง 4- เสี่ยงปานกลาง ค่อนข้างต่ำ | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของจำนวนเงินลงทุนในต่างประเทศ)
• KFENFIX เน้นลงทุนในประเทศและ/หรือต่างประเทศในตราสารหนี้ และ/หรือ เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ที่ออกรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงิน โดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และ/หรือภาคเอกชน ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ และอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ หรือที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ระดับความเสี่ยง 4 – เสี่ยงปานกลาง ค่อนข้างต่ำ | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
• ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
• ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน