ข่าว/ประกาศกองทุน
โปรโมชัน/กองทุนแนะนำ
RMF ใหม่ คัดโอกาสผลตอบแทนเน้นๆ จากเทรนด์หุ้นเด่นทั่วโลก
เสนอขายครั้งแรก 7 – 15 ตุลาคม 2568
RMF ใหม่ คัดโอกาสผลตอบแทนเน้นๆ จากเทรนด์หุ้นเด่นทั่วโลก
5 กองทุน RMF ใหม่ ทั้งกองทุนเชิงรุก (Active Fund) และเชิงรับ (Passive Fund) จับโอกาสโตไปกับหุ้นแนวโน้มดี มีโอกาสเติบโตได้ไกล ให้คุณได้มากกว่าสิทธิลดภาษี
- KF-JP-INDXRMF: โอกาสสร้างผลตอบแทนตามการเติบโตของดัชนีหุ้นญี่ปุ่นชั้นนำ Nikkei 225
- KF-HSHARE-INDXRMF: จับศักยภาพการเติบโตของหุ้นจีนชั้นนำในดัชนี Hang Seng China Enterprises ของตลาดหุ้นฮ่องกง
- KF-CSI300-INDXRMF: เข้าถึงกลุ่มเศรษฐกิจจีนยุคใหม่ หุ้นจีน A-Shares 300 บริษัทใหญ่ที่สุดในตลาดเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น เพื่อโอกาสของผลตอบแทนสอดคล้องกับดัชนี CSI 300
- KF-GDIVRMF: เสริมพอร์ตแกร่งด้วยหุ้นปันผลชั้นนำทั่วโลก เงินปันผลรับสร้างโอกาสของผลตอบแทนรวมที่ดี และลดความเสี่ยงขาลงได้
- KF-US-PLUSRMF: ลงทุนหุ้นสหรัฐฯ ด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่าง ผสานพอร์ตหลักและพอร์ตเสริม เติมโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่า
ลงทุนขั้นต่า 500 บาท และสามารถซื้อผ่านบัตรเครดิตกรุงศรีที่ร่วมรายการได้
(การซื้อหน่วยลงทุนจะไม่เข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายและคะแนนสะสมกับบัตรเครดิต)

กองทุน #1: KF-JP-INDXRMF (กรุงศรีเจแปนอิควิตี้อินเด็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ)
ทางเลือกการลงทุนเพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนไปกับการเติบโตของตลาดหุ้นญี่ปุ่น และเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว รวมทั้งการปรับเพิ่มค่าจ้าง ซึ่งจะผลักดันการบริโภคในประเทศ หนุนด้วยคาดการณ์การเติบโตของรายได้บริษัทต่างๆ
กองทุนหลัก: NEXT FUNDS Nikkei 225 Exchange Traded Fund
- หนึ่งในกองทุนดัชนี Nikkei 225 ETF ชั้นนำในญี่ปุ่น บริหารโดย Nomura AM ที่เน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี Nikkei 225 ซึ่งเป็นดัชนีชั้นนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น 225 บริษัทที่มีสภาพคล่องสูง ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ IT กลุ่มค้าปลีก ยา สามารถสะท้อนการเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจของญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี (ที่มา: Fact sheet, Nomura ณ 31 ก.ค. 68)
- ผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก
กองทุน #2: KF-HSHARE-INDXRMF (กรุงศรีไชน่าเอชแชร์อิควิตี้อินเด็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ)
โอกาสการเติบโตอย่างมีศักยภาพไปกับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนและฮ่องกง อาทิ การประยุกต์ใช้ AI ของจีน ที่รัฐบาลมีเป้าหมายผลักดันนำมาใช้ในอุตสาหกรรมหลักภายในปี 2030 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ รวมไปถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนจีน - กำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ สะท้อนความแข็งแกร่งของภาคธุรกิจ (ที่มา: Bloomberg ณ 17 ก.ย. 68)
กองทุนหลัก: Hang Seng China Enterprises Index ETF
- มุ่งหวังสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับดัชนี Hang Seng China Enterprises ซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทจีนชั้นนำ 50 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง มีขนาดใหญ่และสภาพคล่องสูง ครอบคลุมอุตสาหกรรมสำคัญๆ เช่น เทคโนโลยีและการเงิน รับโอกาสการเติบโตไปกับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนและฮ่องกง พิสูจน์ได้จากผลการดำเนินงานที่เคลื่อนไหวสอดคล้องไปกับดัชนี
- หลักทรัพย์ 5 อันดับแรกในพอร์ตเป็นหุ้นการเงินและกลุ่มเทคฯ ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ได้แก่ Tencent Holdings (8.25%) / China Construction Bank (7.97%) / Alibaba Group Holding - W (7.69%) / Xiaomi - W (7.57%) / Meituan - W (6.12%) (ที่มา: Hang Seng Investment ณ 31 ก.ค. 68)
กองทุน # 3 KF-CSI300-INDXRMF (กรุงศรีไชน่าอิควิตี้ CSI 300 เพื่อการเลี้ยงชีพ)
รุกสู่โอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากศักยภาพการเติบโตของจีนในอนาคต ซึ่งได้แรงหนุนทั้งจากผลตอบแทนตราสารหนี้ที่ชะลอลง ทำให้นักลงทุนหันมามองโอกาสในตลาดหุ้น แนวโน้มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ที่เสริมบรรยากาศลงทุน และการซื้อหุ้นคืน (Buyback) ของบริษัทจดทะเบียนต่อเนื่อง สะท้อนความเชื่อมั่นต่อมูลค่าหุ้น
กองทุนหลัก: ChinaAMC CSI 300 Index ETF
- หนึ่งในกองทุน ETF ที่เน้นลงทุนในหุ้นจีน A-Shares ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยหุ้นจีน A-Shares 300 บริษัทแรก ที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุด และมีสภาพคล่องสูง ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม และทุกศักยภาพการเติบโตของจีนในระยะยาว รวมถึงกลุ่มเศรษฐกิจยุคใหม่ หรือ “New economy”
- กองทุนหลักการกระจายการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การเงิน IT อุตสาหกรรม และสินค้าอุปโภคบริโภค มีบริษัทใหญ่อย่าง KWEICHOW MOUTAI, CONTEMPORARY AMPEREX TECHN, PING AN INSURANCE GROUP, CHINA MERCHANTS BANK เป็นต้น

กองทุน # 4 KF-GDIVRMF (กรุงศรีโกลบอลดิวิเดนด์เพื่อการเลี้ยงชีพ)
รวมหุ้นปันผลคัดคุณภาพจากทั่วโลก ตอบโจทย์ผู้ที่มองหากลยุทธ์ที่เน้นรักษาเงินลงทุนพร้อมโอกาสของผลตอบแทนที่ดี
กองทุนหลัก: Fidelity Funds - Global Dividend Fund
- พอร์ตการลงทุนที่ผสานการลงทุนเชิงรุกและรับ คัดสรรหุ้นบริษัทที่สามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างต่อเนื่องและในระดับเพิ่มขึ้น และกำไรสุทธิมีความผันผวนต่ำ ช่วยปกป้องเงินลงทุนในภาวะตลาดขาลงพร้อมกับโอกาสสร้างผลตอบแทนรวมที่ดี

- ทำไมกองทุน KF-GDIVRMF แตกต่างจากกองทุนหุ้นปันผลโลกอื่นๆ
- กระจายลงทุนในหุ้น Cyclicals คุณภาพดี (ราว 30%) ขยายโอกาสการลงทุน
- หลีกเลี่ยง Value Trap (กับดักมูลค่าหุ้น) ที่ทำให้ได้หุ้นราคาถูกแต่ราคาไม่ปรับเพิ่มขึ้น
- เลือกหุ้นที่ปันผลไม่สูงในปัจจุบัน แต่มีศักยภาพเติบโตและจ่ายปันผลสม่ำเสมอ
- พอร์ตโดยรวมต้องมี Dividend Yield (อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล) สูงกว่าตลาดโลกอย่างน้อย 25% เน้นให้น้ำหนักในธุรกิจที่มีความยืดหยุ่นบนระดับราคาที่น่าสนใจ

- กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานที่สะท้อนศักยภาพในการสร้างการเติบโตที่โดดเด่นในระยะยาว

กองทุน # 5 KF-US-PLUSRMF (กองทุนเปิดกรุงศรียูเอสซีเล็คอิควิตี้พลัสเพื่อการเลี้ยงชีพ)
ลงทุนจัดเต็มในหุ้นสหรัฐฯ ด้วยกองทุนที่มีแนวโน้มเคลื่อนไหวสอดคล้องกับตลาดโดยรวม และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มได้เหนือกว่า
กองทุนหลัก: JPMorgan Funds - US Select Equity Plus Fund
- มุ่งสร้างผลตอบแทนเหนือดัชนีภายใต้ความผันผวนใกล้เคียงตลาด แตกต่างจาก Active Fund ทั่วไป ด้วยพอร์ตหลักที่เน้นลงทุนที่หุ้นที่เชื่อมั่น และพอร์ตเสริมที่ใช้ทั้งกลยุทธ์ Long และ Short ของหุ้นที่คัดเลือกในแต่ละอุตสาหกรรม

- พอร์ตการลงทุนของกองทุนหลักสร้างโอกาสที่หลากหลายผ่านการกระจายการลงทุน ครอบคลุมทุกหมวดธุรกิจ

- กองทุนได้รับมอร์นิ่งสตาร์ 5 ดาว และมีประวัติผลการดำเนินงานที่โดดเด่น เหนือกว่าตลาดและค่าเฉลี่ยกลุ่มกองทุนหุ้นสหรัฐฯ (ที่มา: J.P. Morgan Asset Management, Morningstar ณ 31 ก.ค. 68 โดยการจัดอันดับของ Morningstar ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของ AIMC แต่อย่างใด)

- RMF เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการลงทุนระยะยาวเพื่อเกษียณอายุ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- กองทุน KF-HSHARE-INDXRMF, KF-CSI300-INDXRMF, KF-US-PLUSRMF ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนกองทุนได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร 02-657-5757 กด 2
*โปรโมชันลงทุน RMF / Thai ESG 2568
โปรโมชันพิเศษ เมื่อลงทุนสะสมทั้งปี 2568 ในกลุ่มกองทุน RMF/ Thai ESG ที่ร่วมรายการของ บลจ.กรุงศรี
รับเพิ่ม หน่วยลงทุน KFCASH-A มูลค่า 100 บาทต่อยอดเงินลงทุนสะสมทุกๆ 50,000 บาท ตามเงื่อนไข*
หลากหลายทางเลือก ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ จับทุกเทรนด์และโอกาสเติบโต เพื่อสิทธิลดภาษีและโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
*รายละเอียด/เงื่อนไขการลงทุนและรับสิทธิ์โปรโมชันลงทุนสะสมทั้งปี
คู่มือการลงทุน RMF/ Thai ESG คลิกที่นี่
รับเพิ่ม หน่วยลงทุน KFCASH-A มูลค่า 100 บาทต่อยอดเงินลงทุนสะสมทุกๆ 50,000 บาท ตามเงื่อนไข*
หลากหลายทางเลือก ครอบคลุมทุกสินทรัพย์ จับทุกเทรนด์และโอกาสเติบโต เพื่อสิทธิลดภาษีและโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
- ข้อมูลกองทุน RMF คลิกที่นี่
- ข้อมูลกองทุน Thai ESG คลิกที่นี่
- สามารถใช้บัตรเครดิตในเครือธนาคารกรุงศรีที่ร่วมรายการซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนในกลุ่ม RMF/ Thai ESG ของบริษัทได้ (ยกเว้นกองทุน KFCASHRMF, KFAFIXRMF, KFGOVRMF, KFLTGOVRMF, KFMTFIRMF, KFGBTHAIESG-A และ RMF/ Thai ESG ในปี 2568 ที่บริษัทอาจประกาศยกเว้นภายหลัง โปรดศึกษาเงื่อนไขเพิ่มเติมด้านล่าง)
- สามารถใช้คะแนนสะสมในบัตรเครดิตกรุงศรี ทุกประเภท (ยกเว้น บัตรเครดิต กรุงศรี คอร์ปอเรท การ์ด) แลกเป็นเงินเพื่อซื้อหน่วยลงทุนใน RMF/ Thai ESG ได้ทุกกองทุน ผ่าน @ccess Mobile Application และ @ccess Online Service โดยทุก 1,000 พอยต์ แทนเงินลงทุน 100 บาท | รายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ คลิกที่นี่
*รายละเอียด/เงื่อนไขการลงทุนและรับสิทธิ์โปรโมชันลงทุนสะสมทั้งปี
- รายการส่งเสริมการขายนี้สำหรับผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้นที่ลงทุนในกองทุนในกลุ่ม RMF และ Thai ESG ที่บริหารโดย บลจ.กรุงศรี (“บริษัท”) ทุกกองทุน ยกเว้นกองทุน KFCASHRMF และ RMF/ Thai ESG ใหม่ในปี 2568 ที่บริษัทอาจประกาศยกเว้นภายหลัง และมียอดเงินลงทุนสะสมสุทธิในช่วงระหว่างวันที่ 2 ม.ค. – 30 ธ.ค. 68 เท่านั้น
- ผู้ลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนที่ได้ลงทุนภายในช่วงเวลาส่งเสริมการขายจนถึงวันที่ 31 มี.ค. 69 ซึ่งเป็นวันที่บริษัทจะทำการคำนวณยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิ เพื่อรับสิทธิ์ในหน่วยลงทุน KFCASH-A
- ยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิ หมายถึง ยอดเงินลงทุนรวมของรายการซื้อและรายการสับเปลี่ยนเข้าจากกองทุนอื่นที่ไม่ใช่กองทุนในกลุ่ม RMF/ Thai ESG ของบริษัท และรายการโอนเข้ากองทุนในกลุ่ม RMF/ Thai ESG จาก บลจ.อื่น แต่ไม่รวมถึงรายการโอนจาก PVD เข้ากลุ่ม RMF หักด้วย ยอดลงทุนรวมของรายการขายคืน รายการสับเปลี่ยนออกไปยังกองทุน RMF/ Thai ESG ที่ไม่ร่วมโปรโมชันนี้หรือกองทุนใดๆ ของบริษัท และรายการโอนออกจากกองทุนในกลุ่ม RMF/ Thai ESG ของบริษัทไปยังบลจ.อื่น ยกเว้น กรณีการขายคืน สับเปลี่ยนออกและโอนออกจากจำนวนหน่วยลงทุนคงเหลือ ณ วันที่ 30 ธ.ค. 67 โดยบริษัทจะใช้วิธีคำนวณแบบเข้าก่อนออกก่อน (FIFO) ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขทางภาษีที่ทางกรมสรรพากรกำหนด
- ในกรณีที่ผู้ลงทุนมีบัญชีกองทุนมากกว่า 1 บัญชี บริษัทจะทำการนับเงินยอดเงินลงทุนสะสมสุทธิจากทุกบัญชีรวมกัน โดยพิจารณาจากเลขบัตรประจำตัวประชาชนเป็นหลัก
- บริษัทจะทำการโอนหน่วยลงทุน KFCASH-A ตามเงื่อนไขการลงทุนและการรับสิทธิ์ภายในวันที่ 30 เม.ย. 69 โดยมีมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ทำการโอน
- หน่วยลงทุนสุทธิที่ได้รับสิทธิจากรายการส่งเสริมการขายของการลงทุนกับ RMF/ Thai ESG แบบประจำเท่ากันทุกเดือนต่อเนื่องครบ 12 เดือน ตั้งแต่ ม.ค. - ธ.ค. 68 แล้ว (รวมถึงโปรโมชันอื่นที่บริษัทอาจประกาศภายหลัง) จะไม่เข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายนี้
- หน่วยลงทุน RMF ที่รับโอนจาก PVD จะได้รับสิทธิจากรายการส่งเสริมการขายของเงินโอน PVD สู่ RMF แต่จะไม่เข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายนี้
- ยอดเงินสับเปลี่ยนจากกองทุน LTF ทุกกองทุน จะไม่นับเป็นเงินลงทุนที่จะได้รับสิทธิจากรายการส่งเสริมการขายนี้ เนื่องจากเข้าเกณฑ์การได้รับโปรโมชันสับเปลี่ยน LTF ไป Thai ESG/RMF 2568 แล้ว
- การลงทุนของผู้ลงทุนที่เป็นนิติบุคคล สถาบัน และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะไม่เข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายนี้
- บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของรายการส่งเสริมการขายโดยมิต้องแจ้งล่วงหน้า ในกรณีมีข้อพิพาท คำตัดสินของบริษัทถือเป็นที่สุด
คู่มือการลงทุน RMF/ Thai ESG คลิกที่นี่