สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
04/03/2567

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 3 ดัชนีปิดผสมผสาน Dow Jones ปรับตัวลงเล็กน้อย ในขณะที่ S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นและปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นจากปัจจัยหนุนเรื่อง AI และยังได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ที่ปรับตัวลงตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ค่อนข้างอ่อนแอ
  • สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 47.8 ในเดือน ก.พ. จากระดับ 49.1 ในเดือน ม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.5 ดัชนีได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่ ดัชนียังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ โดยเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 16
  • มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 76.9 ในเดือน ก.พ. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 79.6 จากระดับ 79.0 ในเดือน ม.ค.
  • ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 นั้น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.78% ขณะที่กลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลงมากสุดที่ 0.72% หุ้นอินวิเดีย (NVDA) พุ่งขึ้น 4% และปิดตลาดด้วยมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) สูงกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรก ขณะที่หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ (AMD) พุ่ง 5.25% ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
  • ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ลงนามร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อช่วยให้รัฐบาลสามารถดำเนินงานต่อได้ รอดพ้นจาก Government Shutdown หรือภาวะที่รัฐต้องปิดทำการเพราะไม่มีงบประมาณ ทั้งนี้ รัฐสภายังต้องมีการเจรจาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายงบประมาณก่อนวันที่ 22 มี.ค. 2567
  • ตลาดหุ้นยุโรป STOXX 600 ปิดบวกทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) นักลงทุนยังคงขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป แต่กลับมองข้ามการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อพื้นฐานในยุโรปยังคงอยู่ในระดับสูง
  • ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงในช่วงแรกโดยถูกกดดันจากการเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของยูโรโซนยังคงอยู่ในระดับสูง และกิจกรรมการผลิตยังคงหดตัวในเดือน ม.ค. ทำให้โกลด์แมน แซคส์ เลื่อนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกจากเดือน เม.ย. ไปเป็นเดือน มิ.ย.
  • ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน อาทิ หุ้นเดมเลอร์ ทรัก (DTG) บริษัทเยอรมนี หนึ่งในผู้ผลิตรถเพื่อการพาณิชย์รายใหญ่ของโลก พุ่งขึ้น 18.1% หลังเปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีดีกว่าคาด และคาดการณ์ผลประกอบการปี 2567 ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
  • ตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei ปรับตัวขึ้นแรงทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All Time High) ที่ระดับใกล้เคียง 40,000 จุด นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นตามดัชนี S&P500 และ Nasdaq ของสหรัฐซึ่งปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในคืนก่อนหน้า
  • ตลาดหุ้นจีน Shanghai Composite ปิดบวกเล็กน้อย หลังสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ก.พ. อยู่ที่ 49.1 ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายจากไฉซินอยู่ที่ 50.9 ในเดือน ก.พ. ซึ่งสูงกว่าเดือนที่แล้วเล็กน้อย ทั้งนี้ตัวเลข PMI สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนตัวเลข PMI ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมธุรกิจอยู่ในภาวะหดตัว
  • ตลาดหุ้นอินเดีย Sensex พุ่งขึ้นกว่า 1,200 จุด ทะลุแนว 73,000 จุด หลังตลาดได้ปัจจัยบวกจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจ (GDP) ที่แข็งแกร่ง โดยเศรษฐกิจอินเดียมีการขยายตัว 8.4% ในเดือน ต.ค. - ธ.ค.2566 โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
  • อินเดียอนุมัติสร้างโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 3 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
    • แห่งแรก เงินลงทุน 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เน้นผลิตชิปรุ่นเก่า 28 นาโนเมตร ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงด้านกลาโหม
    • แห่งที่สอง เงินลงทุน 3.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เน้นพัฒนาเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง รองรับกลุ่มยานยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    • แห่งที่สาม เงินลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เน้นผลิตชิปสำหรับผู้บริโภค อุตสาหกรรม ยานยนต์ และการจัดการพลังงาน 
  • ตลาดหุ้นไทย SET ปิดลบ 3.25 จุด เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ตามภูมิภาค ในขณะที่มีแรงเก็งกำไรในกลุ่มสนามบินโดยเฉพาะ AOT ที่ตอบรับการประกาศแผนผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคของนายกรัฐมนตรี แต่การขึ้นของ AOT ก็ไม่เพียงพอที่จะหนุนดัชนีให้เป็นบวกได้ สัปดาห์นี้จับตาการรายงานอัตราเงินเฟ้อของไทย

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

“Bad news is goods news” ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P500) ปรับตัวขึ้นทำระดับ All Time High เป็นครั้งที่ 15 ในปีนี้ แม้ตัวเลขการผลิตจะออกมาอ่อนแอ แต่ตลาดตีความว่านั่นอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) อาจมีการปรับลดดอกเบี้ยลงได้เร็วกว่าที่คาด อย่างไรก็ดี เราแนะนำให้จับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ เช่น ตัวเลขภาคบริการและตัวเลขตลาดแรงงานที่จะรายงานตั้งแต่วันอังคารจนถึงวันศุกร์ (5 - 8 มี.ค.)

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,087.38 จุด เพิ่มขึ้น 90.99 จุด หรือ +0.23%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,137.08 จุด เพิ่มขึ้น 40.81 จุด หรือ +0.80% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 16,274.94 จุด เพิ่มขึ้น 183.02 จุด หรือ +1.14%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 497.58 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด หรือ +0.60%
    • ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 39,910.82 จุด พุ่งขึ้น 744.63 จุด หรือ +1.90%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,027.02 จุด เพิ่มขึ้น 11.85 จุด หรือ +0.39%
    • ดัชนี S&P BSE Sensex ปิดตลาดที่ 73,745.35 บวก 1,245.05 จุด หรือ +1.72%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. พุ่งขึ้น 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2.19% ปิดที่ 79.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. พุ่งขึ้น 41.00 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 2,095.70 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,367.42 ลบ 3.25 จุด (-0.24%) Trading Volume: 49,556.62 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายปานกลาง โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มธนาคาร (-0.06%) ตามด้วยกลุ่มพลังงาน (-0.41%) และกลุ่มพาณิชย์ (-0.42%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 831.28 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับลดลง 1 bp แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดไม่เปลี่ยนแปลง
      • อายุ >5-10 ปี ปิดไม่เปลี่ยนแปลง
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลดลง 1 bp
      • IRS SWAP ปิดปรับลดลง 1 bp
    • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,447.37 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,237.30 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน