สรุปภาวะตลาด

สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
25/09/2566

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงในวันศุกร์ (22 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี และแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้
  • ณ เวลา 22.58 น. คืนวันศุกร์ ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 4.438% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อยู่ที่ระดับ 4.529%
  • นางมิเชล โบว์แมน หนึ่งในสมาชิกบอร์ดผู้ว่าการเฟด สนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยกล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายในเวลาที่เหมาะสม และเสริมว่าข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่ายังคงไม่มีน้ำหนักที่เพียงพอในการสกัดให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% สอดคล้องกับนางซูซาน คอลลินส์ ประธานเฟด สาขาบอสตัน ซึ่งกล่าวสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หากเงินเฟ้อยังไม่ชะลอตัวลง
  • เอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 50.1 ในเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จากระดับ 50.2 ในเดือน ส.ค. โดยดัชนีใกล้หลุดระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันศุกร์และปรับตัวลงอย่างรุนแรงในรอบสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ที่ระดับสูงต่อไปอีกนาน
  • โกลด์แมน แซคส์ และเจพี มอร์แกนคาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25% ในเดือน พ.ย. หลังประกาศมติคงอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดี (21 ก.ย.) แต่ BoE ส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ระดับสูงต่อไปเป็นเวลานานขึ้น
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ PMI ของยูโรโซนปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังมีแนวโน้มที่จะหดตัวในไตรมาสที่ 3 และจะไม่กลับมาเติบโตในเร็วๆ นี้
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคบริการและการผลิตขั้นต้นเดือน ก.ย. จากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB)/เอสแอนด์พี โกลบอล ซึ่งเป็นมาตรวัดภาวะเศรษฐกิจโดยรวม เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 47.1 จากระดับต่ำสุดในรอบ 33 เดือนที่ระดับ 46.7 ในเดือน ส.ค. และมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 46.5 ตัวเลขที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า กิจกรรมธุรกิจยังอยู่ในภาวะหดตัว
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัว
  • โกลด์แมน แซคส์เปิดเผยในรายงานว่า ข้อมูลเศรษฐกิจประจำเดือน ส.ค. ของจีน ที่ออกมาดีเกินคาดนั้น เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจและเงินเฟ้อของจีนมีแนวโน้มดีดตัวขึ้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 4.5% ในเดือน ส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าอาจปรับตัวขึ้น 3.9% ส่วนยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 4.6% ในเดือน ส.ค. ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจเพิ่มขึ้น 3% โดยได้แรงหนุนจากการที่ผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างคึกคักในฤดูการท่องเที่ยวช่วงหน้าร้อน
  • ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ (22 กย) SET Index ซื้อขายในแดนบวกเกือบตลอดทั้งวัน ปิดปรับตัวสูงขึ้นทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจีนอาจเริ่มฟื้นตัว

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

ตราสารหนี้ต่างประเทศยังคงมีความน่าสนใจ หลังผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปีเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ประกอบกับเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ และมีแนวโน้มที่จะคงดอกเบี้ยระดับสูงนานกว่าที่ตลาดคาดไว้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ เป็นโอกาสลงทุนเพื่อคาดหวังผลตอบแทนจากดอกเบี้ยและส่วนต่างราคา (capital gain) ในอนาคต หากสามารถลงทุนตามเป้าหมายระยะกลางถึงยาวได้

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,963.84 จุด ลดลง 106.58 จุด หรือ -0.31%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,320.06 จุด ลดลง 9.94 จุด หรือ -0.23% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,211.81 จุด ลดลง 12.18 จุด หรือ -0.09%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 453.26 จุด ลดลง 1.41 จุด หรือ -0.31%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,132.43 จุด เพิ่มขึ้น 47.73 จุด หรือ +1.55%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 90.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.00 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ 1,945.60 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,522.59 บวก 8.33 จุด (+0.55%) Trading Volume: 57,167.78 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายปานกลาง โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มธนาคาร (-1.11%) และกลุ่มพลังงาน (+0.56%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,327.89 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1-6 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1 bp
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1-6 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 1-5 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับขึ้น 1-5 bps  
      • นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 175.58 ล้านบาท  นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,980.88 ล้านบาท  
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9

กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศคุณภาพดี
คลิก:
KF-CSINCOM | KF-SINCOMEKFSINCRMF
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ

ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน