Navigating Global Fixed Income: Expert Perspectives by PIMCO & KSAM




บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
(บลจ.กรุงศรี) ร่วมกับ PIMCO หนึ่งในผู้จัดการกองทุนตราสารหนี้ชั้นนำของโลก จัดสัมมนาภายใต้หัวข้อ "Navigating Global Fixed Income: Expert Perspectives by PIMCO & KSAM" ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญจากทั้งสองบริษัทมาแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดตราสารหนี้โลก ทิศทางนโยบายการเงินสหรัฐฯ และโอกาสของนักลงทุนไทยในการเข้าถึงกลยุทธ์การลงทุนระดับโลกผ่านกองทุน PIMCO GIS Income Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลักของกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศภายใต้การบริหารของ บลจ.กรุงศรี

เจาะลึกมุมมองผู้เชี่ยวชาญ
  • คุณเกียรติศักดิ์ ปรีชานุสรณ์, CFA, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนทางเลือก บลจ.กรุงศรี
  • คุณ Lily Feng, Vice President, Product Strategist จาก PIMCO
ประเด็นสำคัญ
  • สภาวะตลาดปัจจุบันถือเป็นจังหวะที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนตราสารหนี้ จากหลายปัจจัยที่ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน
  • นโยบายการเงินสหรัฐฯ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ส่งสัญญาณอาจปรับลดดอกเบี้ย ตลาดคาดการณ์โอกาสสูงถึง 86% ที่จะเริ่มลดดอกเบี้ยภายในเดือนกันยายน 2568 และอาจลดต่อเนื่องถึง 6 ครั้งจนถึงปี 2569 ทำให้อัตรา Fed Funds Rate อาจปรับลดลงสู่ระดับ 3% สะท้อนแรงกดดันจากตลาดแรงงานที่เย็นตัวลง เงินเฟ้อจากภาษีนำเข้า และเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ชันขึ้น แม้มีความไม่แน่นอน แต่ก็สร้างโอกาสที่น่าสนใจแก่นักลงทุนตราสารหนี้


มุมมองจาก บลจ.กรุงศรี
  • ตราสารหนี้คุณภาพสูงในปัจจุบันให้ผลตอบแทนที่ 4 - 5%(1) โดยมีความเสี่ยงด้านเครดิตต่ำ ขณะที่การปรับลดดอกเบี้ยยังสามารถเปิดโอกาสรับกำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) ได้เช่นกัน ((1)ข้อมูลจาก Bloomberg ณ 15 ก.ค. 2563 – 26 ส.ค. 2568)
  • แม้ความเสี่ยงเงินเฟ้ออาจทำให้การลดดอกเบี้ยช้าลง แต่คุณเกียรติศักดิ์มองว่าเป็นประเด็นระยะสั้น พร้อมย้ำว่าตราสารหนี้ยังคงมอบทั้งอัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจและความสามารถในการกระจายความเสี่ยง และชูจุดเด่นของ PIMCO ในการบริหารจัดการความผันผวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อยู่ราว 4.2% และราคาแทบไม่ขยับ แต่ PIMCO สามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 18.5% และเมื่อเปรียบเทียบกับดัชนีมาตรฐาน เช่น U.S. Aggregate Index และ U.S. High Yield Bonds กองทุนของ PIMCO ยังคงทำผลงานได้ดีกว่าและมีความเสี่ยงต่ำกว่า ด้วยกลยุทธ์การจัดสรรเชิงรุกและการลงทุนแบบ Tactical


มุมมองจาก PIMCO
  • กองทุน PIMCO GIS Income Fund ใช้กลยุทธ์การลงทุนที่ยืดหยุ่น โดยปัจจุบันให้น้ำหนักในตราสารหนี้คุณภาพสูง โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลและตราสารจำนองที่มีรัฐบาลสหรัฐฯ ค้ำประกัน (Agency MBS) ที่ยังคงมีราคาน่าสนใจ ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 6% และได้รับการค้ำประกันจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในกรณีผิดนัดชำระ เมื่อเทียบกับพันธบัตรรัฐบาล (Treasuries) ที่ให้ผลตอบแทนราว 4% ตราสาร Agency MBS ยังให้ผลตอบแทนส่วนเพิ่มอีก 130–150 bpsพร้อมรักษาสภาพคล่องได้ดี โดยมีอันดับเครดิตเฉลี่ยที่ AA- และผลตอบแทนมากกว่า 6% ทำให้ Agency MBS เป็นตลาดตราสารหนี้ที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจาก Treasuries
  • PIMCO ยังเน้นกรอบการประเมินมูลค่าที่มีวินัย หลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์ที่ราคาสูงเกินจริง แต่เลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ยังมีราคาน่าสนใจและมีโอกาสปรับขึ้นในอนาคต ด้วยการจัดการ Duration และการเลือกประเภทตราสารหนี้ที่จะลงทุนในเชิงรุก ทำให้กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอให้แก่นักลงทุนแม้ท่ามกลางความไม่แน่นอน


สรุปมุมมองผู้เชี่ยวชาญ
  • เมื่อทิศทางนโยบายการเงินโลกก้าวเข้าสู่เฟสใหม่ KSAM และ PIMCO เห็นว่านี่เป็นจังหวะที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนที่จะพิจารณาการลงทุนในตราสารหนี้ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญระดับโลกของ PIMCO ผสมผสานกับความเข้าใจในตลาดของ บลจ.กรุงศรี เพื่อให้นักลงทุนไทยเข้าถึงกลยุทธ์การลงทุนระดับสถาบันที่ออกแบบมาเพื่อสร้างสมดุลระหว่างรายได้ การจัดการความเสี่ยง และการเติบโตระยะยาว
 
 
  • มองไปข้างหน้า Ms. Feng ประเมินว่ากองทุนหลักจะยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี และหากมีการปรับลดดอกเบี้ย นักลงทุนยังมีโอกาสได้รับกำไรจากส่วนต่างราคาเพิ่มด้วย
 
 
  • ปัจจุบัน บลจ.กรุงศรี มี 7 กองทุนรวมตราสารหนี้ที่ลงทุนในกองทุน PIMCO GIS Income Fund ครอบคลุมความต้องการของนักลงทุนทุกรูปแบบ ได้แก่

 
  • KF-CSINCOME เหมาะสำหรับผู้ต้องการสะสมผลตอบแทนในกองทุน
  • KF-SINCOME เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับรายได้สม่ำเสมอผ่านนโยบายขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ และสำหรับผู้ที่ต้องการโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมจากอัตราแลกเปลี่ยนผ่าน 2 ชนิดหน่วยลงทุน คือ แบบสะสมมูลค่ากับกองทุน KF-SINCOME-FX-A และแบบรับซื้อคืนอัตโนมัติ คือ KF-SINCOME-FX-R
  • ใหม่ล่าสุด! KF-SINCOME-USD ให้นักลงทุนได้ลงทุนโดยตรงในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เช่นเดียวกับกองทุนหลัก เหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินออมใน USD อยู่แล้ว
  • KF-SINCOMERMF และ KF-SINCOME-FXRMF ที่มอบโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาวพร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี
กองทุนเหล่านี้ช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยเข้าถึงการลงทุนในตลาดตราสารหนี้โลกได้อย่างง่ายดาย คุณเกียรติศักดิ์อธิบายว่า แม้มีต้นทุนการป้องกันความเสี่ยง (Hedging Cost) ราว 2 – 3% ต่อปี แต่คาดว่ากองทุนจะยังให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจได้ 
ผู้สนใจสามารถเริ่มลงทุนได้ด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 500 บาท ผ่านช่องทางของ บลจ.กรุงศรี ทั้งออนไลน์ (@ccess Mobile/ @ccess Online) และสำนักงาน (บลจ.กรุงศรี)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม/ขอรับหนังสือชี้ชวน ติดต่อ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร. 2657 5757 กด 2

คำเตือน
  • RMF ลงทุนเพื่อเกษียณอายุ ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน
  • ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • KF-SINCOME-FX และ KF-SINCOME-FXRMF: ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • สำหรับ KF-SINCOME และ KF-SINCOME-FX-R การจ่ายผลตอบแทนขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก ซึ่งอาจมีโอกาสที่นักลงทุนจะไม่ได้รับผลตอบแทนในบางช่วงเวลา
  • สำหรับกองทุน KF-SINCOME-USD ในกรณีที่มีการลงทุนในสกุลเงินอื่นที่ไม่ใช่สกุลเงิน USD กองทุนอาจพิจารณาป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากข้อมูลที่เชื่อถือได้ ณ วันที่เผยแพร่ แต่ บลจ.กรุงศรี ไม่อาจรับประกันความถูกต้อง ครบถ้วน หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลทั้งหมดได้ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ

@ccess Mobile Application

ทำรายการกองทุนสะดวกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว