เมื่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นพลิกมารับบทเด่น จากนี้ไปอะไรคือแรงหนุน?


ดร. ฐนิตพงศ์ ชื่นภิบาล
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารความเสี่ยงด้านการลงทุน บลจ.กรุงศรี จำกัด

24 พฤศจิกายน 2568



หลังจากเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจซบเซาและเงินฝืดมานานหลายทศวรรษ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นกำลังกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง ดัชนี Nikkei 225 ปรับตัวขึ้นทะลุ 40,000 จุดในเดือนตุลาคม 2568 ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ปี 2532 โดยได้รับแรงหนุนจากการปฏิรูปภายในประเทศ การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจโลกและความเชื่อมั่นของนักลงทุน สำหรับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ญี่ปุ่นกำลังกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจในการลงทุนในหุ้น แม้จะยังมีความเสี่ยงและความท้าทายเชิงโครงสร้างอยู่บ้าง

การฟื้นตัวของตลาดหุ้นญี่ปุ่นไม่ได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แต่เป็นผลจากการปรับตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยในปี 2568 ตลาดหุ้นเร่งตัวขึ้นจากปัจจัยสำคัญหลายประการ ได้แก่ 1) การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลังการลาออกของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ และการขึ้นดำรงตำแหน่งของซานาเอะ ทาคาอิจิ สร้างความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและนโยบายสนับสนุนการเติบโต 2) กระแส AI และเทคโนโลยี เนื่องจากญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทาน AI ของโลก โดยเฉพาะในด้านเซมิคอนดักเตอร์ หุ่นยนต์ และคอมพิวเตอร์ควอนตัม ทำให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ 3) ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าทำให้สินทรัพย์ญี่ปุ่นมีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ 4) การปฏิรูปภาคธุรกิจ โดยตลาดหลักทรัพย์โตเกียวผลักดันให้บริษัทต่างๆ ปรับปรุงธรรมาภิบาลและประสิทธิภาพการใช้เงินทุน ส่งผลให้มีการซื้อหุ้นคืน ปรับโครงสร้าง และเพิ่มผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น

ในด้านเศรษฐกิจ เงินเฟ้อของญี่ปุ่นกลับมาอีกครั้งหลังจากเผชิญกับภาวะเงินฝืดมายาวนาน โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นค่าจ้างและราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งนี้ การเจรจาค่าจ้างประจำฤดูใบไม้ผลิ (Shunto) ส่งผลให้ค่าจ้างเพิ่มขึ้นมากกว่า 5% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในรอบหลายสิบปี และส่งผลให้การใช้จ่ายของครัวเรือนฟื้นตัว ในขณะที่ การใช้จ่ายเงินลงทุนของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในภาคเทคโนโลยี โลจิสติกส์ และระบบอัตโนมัติ ทางด้าน IMF คาดการณ์ว่า GDP ของญี่ปุ่นจะเติบโตที่ 1.2% ในปี 2568 โดยได้แรงหนุนจากการลงทุนเทคโนโลยีและการบริโภคภาคเอกชนเป็นแรงขับเคลื่อนหลักแทนการใช้จ่ายภาครัฐ

สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นญี่ปุ่นในระยะยาว โดยทาง Morgan Stanley ระบุว่า พฤติกรรมของครัวเรือนญี่ปุ่นกำลังเปลี่ยนไปจากการเน้นเงินฝากสู่การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นและกองทุนรวม รวมถึงได้แรงหนุนจากหลายปัจจัยที่ช่วยผลักดันตลาดหุ้นญี่ปุ่น ได้แก่
1. การปฏิรูปธรรมาภิบาลองค์กร
  • ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวผลักดันมาตรฐานความโปร่งใสและการเปิดเผยข้อมูล เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงผลักดันให้บริษัทต่างๆ ที่มีอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชี (P/B) ต่ำกว่า 1 ให้ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เงินทุน ส่งผลให้บริษัทกว่า 80% ดำเนินมาตรการซื้อหุ้นคืน ปรับโครงสร้าง และเพิ่มผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น โดย Goldman Sachs มองว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างช่วยเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุน และคาดว่ากำไรต่อหุ้นจะเติบโตสะสมถึง 32% ใน 3 ปี
2. การกลับมาของเงินเฟ้อและค่าจ้าง
  • การเปลี่ยนผ่านจากเงินฝืดสู่เงินเฟ้อช่วยเพิ่มกำไรของบริษัท ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของค่าจ้างส่งผลให้บริษัทสามารถผลักภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภคได้มากขึ้น
3. การลงทุนจากต่างประเทศ
  • นักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ เข้ามาลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นมากขึ้น โดยมีแรงจูงใจจากมูลค่าหุ้นที่ยังไม่แพงและค่าเงินเยนอ่อน โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นญี่ปุ่นกว่า 3.5 ล้านล้านเยนในไตรมาส 3/2568
4. การบริโภคภายในประเทศ
  • ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลช่วยหนุนการใช้จ่ายของครัวเรือน ซึ่งจะสร้างวงจรเชิงบวกระหว่างค่าจ้าง ราคา และการเติบโต
5. การย้ายฐานการผลิตกลับประเทศ
  • ญี่ปุ่นได้รับประโยชน์จากการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานโลก โดยบริษัทตะวันตกย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังญี่ปุ่น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์
ในด้านความเสี่ยง สิ่งที่นักลงทุนต้องพิจารณา ได้แก่
  1. ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เนื่องจากญี่ปุ่นตั้งอยู่ใกล้จีน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย ซึ่งอาจเกิดความไม่แน่นอนทางการค้าและความมั่นคงในภูมิภาค
  2. ระบบการเมืองแบบผสมของญี่ปุ่นและข้อจำกัดทางการคลังอาจขัดขวางการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
  3. ธนาคารกลางญี่ปุ่นเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังติดลบ แต่การขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมอาจกดดันมูลค่าหุ้น
  4. นักวิเคราะห์เตือนว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอาจมีมูลค่าสูงเกินไป และอาจเกิดการปรับฐานในอนาคต

โดยสรุป ตลาดหุ้นญี่ปุ่นในปี 2568 เป็นเรื่องราวของการฟื้นตัว การปฏิรูป และความแข็งแกร่ง ด้วยเงินเฟ้อที่กลับมา ธรรมาภิบาลองค์กรที่ดีขึ้น และการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศ ดัชนี Nikkei และ TOPIX มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ นโยบายการเงิน และมูลค่าหุ้นอย่างใกล้ชิด
สำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการกระจายความเสี่ยงและเข้าถึงเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลง ญี่ปุ่นถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจ ทั้งนี้ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ประเมินความเสี่ยงการลงทุน และความสามารถในการรับความเสี่ยงของท่านก่อนการตัดสินใจลงทุน รวมถึงติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ

นักลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนในกองทุนหุ้นญี่ปุ่นของ บลจ.กรุงศรี ได้ทั้ง 4 กองทุน
  • KFJPINDX-A / KF-JP-INDXRMF จะลงทุนไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ในกองทุนหลัก NEXT FUNDS Nikkei 225 Exchange Traded Fund
  • KF-HJAPAND / KFJAPANRMF จะลงทุนไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ในกองทุนหลัก JPMorgan Funds – Japan Equity Fund
  • KFJAPANRMF ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน | KF-HJAPAND / KFJPINDX-A / KF-JP-INDXRMF ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
  • ทั้ง 4 กองทุนมีระดับความเสี่ยง: 6 คือ เสี่ยงสูง
สามารถลงทุนผ่าน @ccess Mobile หรือ @ccess Online เริ่มต้นเพียง 500 บาท เท่านั้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม/ขอรับหนังสือชี้ชวน โปรดติดต่อ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร. 2657 5757 กด 2

คำเตือน
  • RMF เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการลงทุนระยะยาวเพื่อเกษียณอายุ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • KFJAPANRMF ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้


ข้อมูล KFJPINDX-A คลิก

ข้อมูล KF-JP-INDXRMF คลิก

ข้อมูล KF-HJAPAND คลิก

ข้อมูล KFJAPANRMF คลิก

ย้อนกลับ

@ccess Mobile Application

ทำรายการกองทุนสะดวกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว