วางแผนการลงทุน
Europe in Focus: จับตาแรงหนุนและศักยภาพที่ไม่สิ้นสุด

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (“บลจ.กรุงศรี”) ร่วมกับ Goldman Sachs Asset Management จัดงานสัมมนาในหัวข้อ “Europe in Focus: Positive Momentum, Lasting Potential” เพื่ออัปเดตมุมมองการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป พร้อมประกาศเปลี่ยนกองทุนหลักของกองทุนหุ้นยุโรปภายใต้การบริหารของ บลจ.กรุงศรี (จาก Allianz Europe Equity Growth Fund) เป็น Goldman Sachs Europe CORE® Equity Portfolio สะท้อนความมุ่งมั่นของ บลจ.กรุงศรีในการเพิ่มการกระจายการลงทุนและยกระดับผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยงให้ดีขึ้น สำหรับกองทุน KF-EUROPE, KF-HEUROPE และ KFEURORMF
เจาะลึกมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ
- คุณเกียรติศักดิ์ ปรีชานุสรณ์, CFA, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนทางเลือก บลจ.กรุงศรี
- คุณ Sedhvi Gupta, CFA, Executive Director, Quantitative Investment Strategy, Goldman Sachs Asset Management
- มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนของเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นในปี 2026 หนุนโดยเงินเฟ้อที่ลดลง ผลกระทบจากภาษีที่ผ่อนคลายและมาตรการกระตุ้นทางการคลัง แม้ตลาดหุ้นยุโรปจะถูกมองข้ามจากนักลงทุนทั่วโลก แต่ปัจจุบันอยู่ในจุดที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาความยืดหยุ่น การกระจายพอร์ต และการเติบโตระยะยาวอย่างยั่งยืน
- มูลค่าหุ้นยุโรป (Valuation) อยู่ในระดับที่น่าดึงดูดเมื่อเทียบกับอดีตและตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นๆ ขณะที่มุมมองต่อกำไรบริษัท (Earnings Sentiment) ปรับดีขึ้นตามการปรับคาดการณ์กำไรขึ้น

ที่มา: FactSet, Goldman Sachs Global Investment Research ณ 22 ก.ย. 68
- การแข็งค่าของเงินยูโรซึ่งเคยกดดันตลาดก่อนหน้านี้เริ่มจะคลายตัว ขณะที่กำไรของบริษัทจดทะเบียนคาดว่าจะเติบโต 11% ในปี 2026 แม้ยังมีเงินลงทุนไหลเข้าตลาดยุโรปในระดับต่ำ แต่ถือเป็นโอกาสเมื่อความเชื่อมั่นกลับมา

มุมมองจาก Goldman Sachs Asset Management
- ท่ามกลางความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์และการเติบโตที่แตกต่างกันภายในภูมิภาค รวมถึงมาตรการเชิงโครงสร้าง เช่น ReArm Europe Plan 2030 ของสหภาพยุโรป การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานของเยอรมนี และงบประมาณด้านกลาโหมของยุโรป จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของ GDP ในระยะกลางถึงยาว

ที่มา: Goldman Sachs Asset Management ณ มิ.ย. 68 โดยอ้างอิงข้อมูลตัวเลขจำนวน €800 พันล้านยูโร มาจากคณะกรรมาธิการยุโรป ณ วันที่ 19 มี.ค. 68 | ข้อมูลจำนวน €500 พันล้านยูโร มาจาก Bundestag และ Goldman Sachs Global Investment Research ณ วันที่ 18 มี.ค. 68 | ข้อมูล 3% มาจาก Goldman Sachs Global Investment Research ณ วันที่ 10 มี.ค. 68
- หุ้นยุโรปมีมูลค่าถูกกว่าเมื่อเทียบกับสหรัฐฯ และคาดว่ากำไรบริษัทจะเริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป
- การใช้จ่ายของภาครัฐในด้านกลาโหม โครงสร้างพื้นฐานและพลังงานสะอาดจะเป็นแรงหนุนเพิ่มเติม ขณะที่ตลาดยุโรปมีความสมดุลระหว่างหุ้นเติบโต (Growth) และหุ้นคุณค่า (Value) ซึ่งต่างจากตลาดสหรัฐฯ ที่เน้นหุ้นเติบโตมากกว่า

ที่มา: Multi Asset Solutions Goldman Sachs, Haver Analytics, Global Investment Research ณ 7 มิ.ย. 68 โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Datastream, IB/E/S, STOXX, Goldman Sachs Global Investment Research; Datastream, Worldscope, Goldman Sachs Global Investment Research
- จุดแข็งสำคัญของยุโรปคือ “ความหลากหลาย” - มีมากกว่า 50 ประเทศ 20 ธนาคารกลาง และนโยบายการเงิน-การคลังที่แตกต่างกัน ทำให้ตลาดยุโรปมีความซับซ้อนแต่เต็มไปด้วยโอกาส
- สภาพแวดล้อมนี้เหมาะกับกลยุทธ์การลงทุน “Quantitative Investment Strategy” ของกองทุน Goldman Sachs Europe CORE® Equity Portfolio ที่ใช้ข้อมูลเชิงลึก (Data-driven) วิเคราะห์หุ้นกว่า 1,200 บริษัทด้วยตัวชี้วัดกว่า 200 - 400 ตัวเพื่อคัดเลือกหุ้นคุณภาพดี มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง เช่น งบดุลมั่นคง ผู้บริหารมีเสถียรภาพ ธรรมาภิบาลดี และราคาน่าลงทุน โดยใช้ AI และ Big Data วิเคราะห์ข้อมูลรายวัน พร้อมติดตามแนวโน้มตลาดอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: Goldman Sachs Asset Management ณ 30 มิ.ย. 68 | กลุ่มกองทุนที่ใช้เปรียบเทียบผลตอบแทน คือ Morningstar Europe Large- Cap Equity | ดัชนีอ้างอิง คือ MSCI Europe ผลการดำเนินงานที่แสดงเป็นผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
- พอร์ตการลงทุนปัจจุบันของกองทุนให้น้ำหนักมากขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมการบิน วัสดุ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้วยการบริหารแบบเชิงรุกและเป็นระบบ กองทุนปรับพอร์ตทุกๆ 3 วัน เพื่อตอบรับสภาวะตลาดและคว้าโอกาสในตลาดได้อย่างทันท่วงที
- กองทุนหลักใหม่ Goldman Sachs Europe CORE® Equity Fund ใช้แนวทางกระจายการลงทุนมากขึ้น โดยมีการลงทุนในกว่า 174 หลักทรัพย์ ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรมและประเทศ ใช้กลยุทธ์การลงทุนผสมสานระหว่างหุ้น Growth และ Value เพื่อปรับตัวตามวัฏจักรตลาดยุโรป เพิ่มความยืดหยุ่นและความทนทานของพอร์ต
- กองทุนหลักใหม่ได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวจาก Morningstar* สะท้อนความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่มีวินัย โดยตั้งแต่ปี 2020 กองทุนสามารถทำผลงานชนะดัชนี MSCI Europe ใน 15 จาก 17 ไตรมาส โดยอีก 2 ไตรมาสที่ผลตอบแทนต่ำกว่าอยู่ในระดับเพียง 1 - 2% เท่านั้น

*ที่มา: สรุปสาระสำคัญของกองทุนหลัก ณ 31 ก.ค. 2568 และ Morningstar ณ 31 ก.ค. 2568 | การจัดอันดับดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับ AIMC แต่อย่างใด | ผลการดำเนินงานที่แสดงเป็นผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานกองทุนรวมของ AIMC แต่อย่างใด
- บลจ.กรุงศรีเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยเข้าถึงกลยุทธ์ระดับโลก และคุณเกียรติศักดิ์ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “นี่คือจังหวะสำคัญในการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในยุโรปประมาณ 10 - 15% เพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโดยรวม”
- KF-HEUROPE จะป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
- KF-EUROPE/ KFEURORMF ป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจตามภาวะตลาด
- ทั้ง 3 กองทุนลงทุนไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ในกองทุนหลัก Goldman Sachs Europe CORE® Equity Portfolio และอยู่ในระดับความเสี่ยง ระดับ 6 (เสี่ยงสูง)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม/ขอรับหนังสือชี้ชวน โปรดติดต่อ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร. 2657 5757 กด 2
คำเตือน
- RMF เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการลงทุนระยะยาวเพื่อเกษียณอายุ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- กองทุน KF-EUROPE และ KFEURORMF ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
- ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุน ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับมาภายในกำหนดเวลา มิฉะนั้นจะต้องชำระเงินเพิ่มและ/หรือเบี้ยปรับตามประมวลรัษฎากร
ข้อมูล KF-EUROPE คลิก
ข้อมูล KF-HEUROPE-A คลิก
ข้อมูล KFEURORMF คลิก