วางแผนการลงทุน
สรุปประเด็นสำคัญงานสัมมนา "Dragon Tech: Investing Where the Future Roars"
สรุปประเด็นสำคัญกองทุน KFCHINA-T10PLUS
งานสัมมนา Dragon Tech: Investing Where the Future Roars | 15 กรกฎาคม 2568
วิทยากร: คุณเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุนทางเลือก บลจ.กรุงศรี จำกัด
ทำไมต้องกองทุนหุ้นเทคจีน KFCHINA-T10PLUS?

- ธีมการลงทุนในหุ้นเทคจีนขนาดใหญ่ตัวท็อปที่มีศักยภาพสูงสุดในยุคนี้ คัดสรรเฉพาะหุ้นผู้นำด้านเทคโนโลยีในดัชนี Hang Seng Tech Index ซึ่งกระจายการลงทุนในเทคโนโลยีต่างๆ ครอบคลุมตั้งแต่ AI, EV, E-Commerce, Cloud ไปจนถึง Social Media และแพลตฟอร์มดิจิทัล (ที่มา: Hang Seng Indexes ณ 30 เม.ย. 68)
- จังหวะนี้เป็นโอกาสการลงทุนที่ดี เพราะเป็นช่วงเวลาที่หุ้นเทคจีนถูกประเมินมูลค่าต่ำสุดในรอบหลายปี ซึ่งเป็นระดับราคาที่ยังต่ำกว่าศักยภาพอย่างชัดเจน โดยดัชนี Hang Seng Tech มีค่า P/E เพียง 16 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี และต่ำกว่าหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ถึง 43% ขณะที่ระดับดัชนียังอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดในปี 2021 ถึงกว่า 50% สะท้อนถึง Upside ที่ยังเปิดกว้างสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสระยะยาวในกลุ่มเทคโนโลยีของจีน (ที่มา: Bloomberg ณ 11 และ 4 มิ.ย. 68)
หุ้นเทคจีน...ฟื้นชั่วคราวหรือกลับมาเติบโตยาวได้?

- หุ้นเทคจีนจะมีโอกาสฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง จากตัวเลขผลประกอบการที่ทำ New High ขึ้นเรื่อยๆ แต่ราคายังไม่สะท้อนการเติบโตดังกล่าว นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยว อีคอมเมิร์ซ คลาวด์ รวมทั้งรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มกลับมาเติบโตตามกระแสอีกครั้ง

- การนำ AI อย่าง DeepSeek มาใช้จริงในภาคธุรกิจจีน เป็นการช่วยลดต้นทุน เสริมประสิทธิภาพและเพิ่มรายได้ โดยคาดว่า AI จะช่วยขับเคลื่อนกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนให้เติบโตเฉลี่ยมากถึงกว่า 2.5% ต่อปี (ที่มา: Wind, Bloomberg, Goldman Sachs Global Investment Research ณ 17 ก.พ. 68)
- บริษัทยักษ์ใหญ่จีนยังแสดงความเชื่อมั่นต่อพื้นฐานธุรกิจ ผ่านการซื้อหุ้นคืนรวมกว่า 300 พันล้านหยวนในปี 2567 ซึ่งสูงกว่าปี 2562 ถึง 15 เท่า สะท้อนว่าแรงกดดันในอดีตอาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นตัวที่น่าจับตา โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทเทคที่ลงทุนอย่างจริงจังในนวัตกรรมและมีศักยภาพการแข่งขันระดับโลก (ที่มา: Company Filings, Bloomberg Intelligence ณ 13 พ.ค. 68)
- หุ้นเทคจีนเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ชัดเจนกว่าภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งยังเผชิญปัญหาความกดดันจากสงครามการค้าและมาตรการด้านภาษีจากสหรัฐ รวมทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังส่งผลกระทบต่อตลาดโดยรวม สะท้อนให้เห็นในภาพรวมของหุ้นใน A-Shares ที่ยังไม่ขยับตัวมากนักและยังต้องรอมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางภาครัฐอยู่ต่อไป ขณะที่หุ้นในตลาด H-Shares มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ การบริโภคออนไลน์ที่กลายเป็นวิถีหลักในชีวิตประจำวัน ยอดขายรถ EV ที่ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง 4 ปี* ตลาดเกมและ Cloud ที่ยังเติบโตแม้เผชิญแรงกดดันจากภาครัฐในอดีตนอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวโมเดล AI ของจีนอย่าง DeepSeek เป็นสิ่งสะท้อนความพร้อมของจีนในการแข่งขันบนเวทีโลก (*ที่มา: CAAM, CLSA ณ 21 ม.ค. 68)

ลงทุนหุ้นเทคจีนด้วยกลยุทธ์ที่เหนือกว่ากับ KFCHINA-T10PLUS
- กองทุนจะลงทุนในหุ้นเทคจีนจำนวน 10 – 11 บริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีกระแสเงินสดเยอะ และเป็นระดับผู้นำของอุตสาหกรรมต่างๆ ที่หลากหลาย หุ้นส่วนใหญ่ยังมี P/E ต่ำกว่า 20 เท่า ทำให้ราคาปัจจุบันยังมี upside ได้อีกเยอะ และนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังแนะนำ “ซื้อ” (ที่มา: Bloomberg ณ 2 ก.ค. 68)
- ปัจจุบันกองทุนกระจายการลงทุนในหุ้นแต่ละตัวที่เป็นระดับผู้นำอุตสาหกรรมได้แก่ Xiaomi ที่เติบโตโดดเด่นในตลาดสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ประเภท Internet of Things (IoT) พร้อมเริ่มรุกธุรกิจ EVที่มีแนวโน้มที่ดี, หุ้น Tencent และ NetEase ที่แข็งแกร่งในตลาดเกมระดับโลก, Alibaba และ JD.com ในกลุ่ม E-Commerce ที่ผสาน AI และ Cloud, SMIC ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน, Meituan แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ถือครองตลาดฟู้ดเดลิเวอรีและค้าปลีกสดในจีน รวมถึง XPeng และ Li Auto ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม

ข้อมูลเพื่อประกอบการอธิบายเท่านั้น โดยไม่ถือว่าเป็นการแนะนำการซื้อขายหลักทรัพย์
- กองทุนออกแบบมาเพื่อเก็บเกี่ยวโอกาสจากการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของหุ้นเทคจีน โดยใช้กลยุทธ์การคัดเลือกแบบ Rule-based เน้นหุ้นผู้นำที่มีศักยภาพสูงที่สุดในดัชนี ไม่ใช่แค่ขนาดใหญ่ แต่ต้องมีคุณภาพ มีแนวโน้มเติบโต และมีความสามารถในการแข่งขันระยะยาว
- เสริมประสิทธิภาพการบริหารพอร์ตด้วยกลยุทธ์ “PLUS” ซึ่งเพิ่มความยืดหยุ่นในการลงทุนโดยขยายจำนวนหุ้นในพอร์ตเป็น 11 หลักทรัพย์ ลดข้อจำกัดจากการกระจุกตัว และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนผ่านการลงทุนบางส่วนใน Hang Seng Tech ETF แทนการถือเงินสด พร้อมปรับสัดส่วนพอร์ตอย่างสม่ำเสมอด้วยหลักการ Equal-weighted และ Cash Flow Rebalance เพื่อรักษาความสอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนในทุกสภาวะตลาด
- หุ้นทั้งหมดในพอร์ตมีน้ำหนักใกล้เคียงกันเพื่อกระจายโอกาสการเติบโต ไม่ผูกกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่งมากเกินไป ใช้หลักการปรับพอร์ตทุกไตรมาสเพื่อรักษาความสมดุล และสามารถใช้ ETF เพื่อเพิ่มสภาพคล่องได้หากจำเป็น

- จุดเด่นของกองทุน KFCHINA-T10PLUS ดีกว่าการลงทุนในดัชนี H-Shares โดยตรง คือเป็นการลงทุนแบบเน้นๆ ไปที่บริษัทที่เป็นระดับท้อป บริษัทใหญ่มีเงินทุนและทรัพยาการที่เพียงพอมีโอกาสเติบโตได้มากกว่า สำหรับผลการทดสอบแบบ Back-Test ของพอร์ตจำลองที่จะมีการปรับพอร์ตทุกๆ 3 เดือน พบว่า กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า 40% เหนือดัชนี Hang Seng Tech Index ที่ทำผลตอบแทนได้ประมาณ 27%
กองทุนนี้จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสเติบโตจากหุ้นเทคจีน และสำหรับผู้ที่ยังมีการลงทุนอยู่ในกองทุนหุ้น A-Shares ที่ยังรอปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจให้การเติบโต ก็สามารถสับเปลี่ยนออกมาที่ KFCHINA-T10PLUS เพื่อโอกาสในการเติบโตที่รวดเร็วกว่าจากหุ้นเทคจีน ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมากในอนาคต เพื่อเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวของเงินลงทุนได้เร็วขึ้น
KFCHINA-T10PLUS เสนอขายครั้งแรก 14 - 23 กรกฎาคม 2568
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอรับหนังสือชี้ชวนกองทุนได้ที่
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด โทร. 0 2657 5757 ต่อ 2
- เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- KFCHINA-T10PLUS ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
- ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต