ตอนที่ 6 : ทริคลงทุนอย่างมีเป้าหมาย และทำได้จริง




ทริคลงทุนอย่างมีเป้าหมาย และทำได้จริง


“จากร้อยเป็นล้าน”...ลงทุนอย่างมี “เป้าหมาย”

หากเราเริ่มตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและมีขั้นตอนหรือวิธีที่เหมาะสมตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้เงินที่เรามีอยู่ได้ทำงานและเติบโต ไม่ว่าจะตั้งเป้าเป็นเงินหลักแสนหลักล้านหรือหลายๆ ล้านก็เป็นไปได้ ขอเพียงตั้งใจให้มั่น และทำความเข้าใจขั้นตอนการลงทุนให้ดีก่อนตัดสินใจ
แต่ถ้าดูแล้วว่าการจะลงมือวางแผนและเลือกการลงทุนเองเป็นเรื่องยุ่งยากเกินไป เราสามารถใช้ตัวช่วยอย่าง ”ระบบจัดพอร์ตการลงทุนอัตโนมัติ” ที่มีอยู่บน Application ของการลงทุนต่างๆ เข้ามาช่วยวางแผนที่เหมาะสมกับเป้าหมาย เงินลงทุน และความเสี่ยงของเราได้เช่นกัน

ขั้นตอนการลงทุนที่สำคัญ
1. ตั้งเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน
การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเก็บเงินล้าน เป้าหมายที่ระบุว่า "อยากมีเงินล้าน" นั้นอาจทำให้เรารู้สึกไม่แน่ใจในขั้นตอนต่อไปว่าต้องทำยังไงต่อ แต่การตั้งเป้าหมายที่เจาะจงขึ้น เช่น “จะเก็บเงิน 1 ล้านบาทภายใน 5 ปี” หรือ “เก็บเงิน 500,000 บาทในปีนี้” ช่วยให้เราสามารถวางแผนการเงินได้อย่างเป็นระบบ และสามารถคำนวณได้ว่าแต่ละเดือนต้องเก็บเงินเท่าไหร่ หรือหากจะลงทุนต้องได้รับผลตอบแทนเท่าไหร่เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

2. พลังของดอกเบี้ยทบต้น: เครื่องมือสร้างความมั่งคั่ง
ดอกเบี้ยทบต้นคือเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างความมั่งคั่ง ยิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไหร่ เงินยิ่งเติบโตเร็วขึ้น จากผลตอบแทนที่ทบต้นในทุกปี โดยมี 3 ปัจจัยสำคัญ
  • ระยะเวลาลงทุน: ยิ่งเริ่มต้นเร็ว มีเวลาลงทุนนาน ยิ่งทำให้เงินเติบโต
  • เงินต้น: ยิ่งเงินต้นมาก โอกาสได้ผลตอบแทนจะยิ่งสูง
  • อัตราผลตอบแทน: ผลตอบแทนสูงจะทำให้เงินเติบโตเร็วขึ้น และที่สำคัญ ไม่ถอนผลตอบแทนระหว่างทาง เพื่อให้ผลตอบแทนทบต้นทำงานได้เต็มที่!

3. การจัดสรรเงิน : การแบ่งสัดส่วนเพื่อลงทุน
การจัดสรรเงินอย่างมีระเบียบจะช่วยให้คุณสามารถออมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราอาจใช้สูตร 50-30-20 เพื่อแบ่งรายได้ออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ
  • 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ-ไฟ ค่าอาหาร ค่าเดินทาง
  • 30% สำหรับความต้องการส่วนตัว เช่น ความบันเทิง การท่องเที่ยว การซื้อของที่อยากได้
  • 20% สำหรับการออมและการลงทุน เช่น การลงทุนในกองทุนรวม หรือเป็นเงินสำรองฉุกเฉิน 

4. เลือกการลงทุนให้ตอบโจทย์ : เส้นทางสู่การเติบโต
การลงทุนที่เหมาะสมต้อง
  • ทำให้ไปถึงเป้าหมายได้จริง
  • ความเสี่ยงอยู่ในระดับที่สามารถรับได้
  • มีการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เพื่อช่วยสร้างสมดุล ไม่เสี่ยงไปกับสินทรัพย์เพี่ยงอย่างเดียวมากเกินไป
กองทุนรวมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนมาบริหารการลงทุนให้  อีกทั้งกองทุนรวมยังมีหลากหลายนโยบายให้เลือกลงทุน ตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำไปจนถึงความเสี่ยงสูง เช่น กองทุนตลาดเงิน กองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสม กองทุนหุ้น กองทุนต่างประเทศ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งกองทุนลดหย่อนภาษี อย่าง RMF และ Thai TESG อีกด้วย

การลงทุนในกองทุนหนึ่งก็เท่ากับได้กระจายความเสี่ยง เพราะกองทุนส่วนใหญ่จะกระจายลงทุนในหลายสินทรัพย์ การเลือกลงทุนในหลายกองทุน เช่น ลงทุนทั้งในกองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสม และกองทุนหุ้นต่างประเทศ ก็ยิ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์หลายประเภทที่มีความเสี่ยงมากน้อยต่างกัน ราคาขึ้นลงต่างกัน เพิ่มโอกาสให้ได้ผลตอบแทนรวมมากขึ้นด้วย

5. การลงทุนอย่างมีวินัย
การลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Averaging) เป็นวิธีการลงทุนอย่างสม่ำเสมอด้วยการลงทุนด้วยเงินจำนวนเท่าๆ กันทุกงวดตามที่กำหนดไว้ เช่น เดือนละ 5,000 บาท วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเลือกเวลาลงทุนแบบจับจังหวะตลาด (Market Timing) ทำให้มีการเฉลี่ยราคาหน่วยลงทุนให้ต่ำลงในระยะยาว จึงช่วยลดความผันผวนของการลงทุนได้อีกทาง นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างวินัยการลงทุนที่ดี เนื่องจากเป็นการออมเงินก่อนใช้จ่าย ปัจจุบันมีวิธีให้เราตั้งรายการตัดเงินออกจากบัญชีเงินฝากไปลงทุนโดยอัตโนมัติบน Application การลงทุน ไม่ต้องกลัวว่าจะลืมลงทุนหรือใช้เงินหมดไปก่อนที่จะได้ลงทุน

6. หลีกเลี่ยงการถอนเงินก่อนถึงเป้าหมาย
การมีวินัยในการลงทุน คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายการเก็บเงินได้ หากไม่มีความจำเป็นจริงๆ เราไม่ควรถอนเงินออกจากการลงทุนจนกว่าจะถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพื่อช่วยให้ผลตอบแทนทบต้นทำงานเต็มที่และเงินลงทุนมีโอกาสเติบโตอย่างที่ควรจะเป็น อย่าลืมว่า "การลงทุนเพื่อไปถึงเป้าหมายคือการเดินทางระยะยาว" และทุกครั้งที่เราถอนเงินออกจากการลงทุน แปลว่าเรากำลังพลาดโอกาสที่จะเห็นเงินลงทุนเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

7. ติดตามและปรับแผนการลงทุนตามสถานการณ์
  • การติดตามผลและปรับพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าแผนการเงินเป็นไปตามเป้าหมาย หากสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เช่น ความผันผวนของตลาดเพิ่มสูงขึ้น เราสามารถปรับแผนการลงทุนโดยลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น หรือเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้น เช่น ตราสารหนี้
  • ถ้าใครใช้ระบบจัดพอร์ตการลงทุนอัตโนมัติ มักจะได้รับคำแนะนำและการแจ้งเตือนให้ปรับพอร์ตจากระบบ ซึ่งสามารถพิจารณาทำตามคำแนะนำนั้นได้ง่ายกว่าการหาติดตามข่าวสาร ข้อมูลมาคิดวิเคราะห์สถานการณ์ด้วยตนเอง
  • หากสนใจจะเริ่มลงทุน หาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ต่างๆ แล้วต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ก็สามารถสอบถามไปยังบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) ที่เป็นผู้บริหารกองทุนรวมที่สนใจได้ แต่ละบลจ. จะมีเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ หรือถ้าไม่อยากติดต่อเจ้าหน้าที่ให้ยุ่งยาก ก็สามารถดาวน์โหลด application มาทดลองให้ระบบวางแผนให้ก่อนโดยยังไม่ต้องลงทุนจริงก็ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่

สรุป
การลงทุนอย่างมีเป้าหมายไม่ใช่เรื่องยาก หากเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ ด้วยการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน มีการจัดสรรเงินอย่างมีประสิทธิภาพ เลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่รับได้ และสร้างวินัยการออมที่ดี เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ เราจะสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินและมีความมั่นคงทางการเงินได้อย่างแน่นอน

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ตอนต่อไปมาต่อกันด้วยเรื่อง "เกษียณสบาย เป้าหมายใหญ่ของการลงทุน"

ตอนที่ 5 : เลือกกองทุนให้ดี ต้องมองผ่านเลนส์

ย้อนกลับ

@ccess Mobile Application

ทำรายการกองทุนสะดวกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว