ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
กองทุนรวม
สมัครบริการ @ccess online
Account Opening
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF/ RMF/ Thai ESG/ LTF/ หักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิฯ)
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิภาษี SSF/ RMF/ Thai ESG
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
ข่าว/ประกาศกองทุน
โปรโมชัน/กองทุนแนะนำ
RMF - Index Fund โอกาสดีๆ ของการลงทุนระยะยาว
พร้อมรับโปรโมชันเมื่อลงทุนตามเงื่อนไข*
RMF - Index Fund โอกาสดีๆ ของการลงทุนระยะยาว
หนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว คือ การเลือกลงทุนในกองทุนดัชนีหุ้น ซึ่งเป็น Passive Fund จุดเด่นคือการกระจายการลงทุนในหุ้นของบริษัทต่างๆ ตามสัดส่วนของดัชนีอ้างอิง โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับไปดัชนี และมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่ากองทุนประเภท Active fund ที่มีผู้จัดการทำหน้าที่คัดเลือกหลักทรัพย์ลงทุน เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าดัชนี
ปลายปีนี้ บลจ.กรุงศรี คัด RMF กองทุนดัชนีหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตสดใสรับสภาวะเศรษฐกิจมาแนะนำ
KFUSINDFXRMF กองทุนเปิดกรุงศรียูเอสอิควิตี้อินเด็กซ์เอฟเอ็กซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ
- คว้าโอกาสสร้างผลตอบแทนจาก 500 บริษัทชั้นนำของสหรัฐ ไปกับ S&P 500 ดัชนีมาแรงแห่งปี ในจังหวะที่ใช่ด้วยแรงหนุนทั้งจากเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง ทิศทางดอกเบี้ยขาลง และนโยบายเศรษฐกิจของว่าที่ประธานาธิดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เน้นสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ
- กองทุนหลัก iShares Core S&P 500 ETF รวมบริษัท 500 อันดับแรกของสหรัฐไว้ในกองทุนเดียว และมีค่าธรรมเนียมต่ำ พร้อมเน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี S&P 500 Index ซึ่งเป็นหนึ่งในดัชนีหลักของโลก
- โอกาสโตไปกับดัชนี Nasdaq-100 แหล่งรวมหุ้นเทคโยโลยีที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในโลกยุค AI เช่น หุ้นกลุ่ม Magnificent 7 ได้แก่ Apple, Microsoft, Alphabet, Amazon, META, Tesla และ Nvidia
- กองทุนหลัก Invesco NASDAQ 100 ETF มีเป้าหมายผลการดำเนินงานใกล้เคียงกับดัชนี Nasdaq-100 index และเป็นกองทุนที่มีสภาพคล่องสูง ค่าธรรมเนียมต่ำ
- ดัชนี Nasdaq-100 เป็นดัชนีดาวรุ่งที่มีการเติบโตสูงในยุคที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมมีบทบาทช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการทำกำไรในหลากหลายอุตสาหกรรม ก่อให้เกิดโอกาสการลงทุนอย่างมหาศาล
- เข้าถึงบริษัทชั้นนำในดัชนี MSCI Emerging Markets ex China ที่อัดแน่นด้วยศักยภาพของตลาดประเทศเกิดใหม่ไม่รวมจีน ซึ่งแต่ละประเทศมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่โดดเด่น
- กองทุนหลัก iShares MSCI Emerging Markets ex China ETF เป็นหนึ่งใน ETF ของกลุ่ม Emerging Markets ที่มีขนาดกองทุนและปริมาณการซื้อขายเป็นอันดับต้นๆของอุตสาหกรรม* (*อ้างอิงจาก https://etfdb.com/index/egai-emerging-markets-ex-china-index / ณ 16 ต.ค. 67)
- พอร์ตการลงทุนมีสัดส่วนหลักในหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลางของประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ยกเว้นจีน เช่น อินเดีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ และบราซิล ช่วยกระจายความเสี่ยงและความผันผวนจากการลงทุนในจีน
- โอกาสลงทุนใน MSCI ACWI Index ดัชนีตัวแทนของตลาดหุ้นโลก ครอบคลุมทั้งตลาดพัฒนาแล้วและตลาดเกิดใหม่ ในจังหวะที่ภาพรวมเศรษฐกิจและหลากหลายปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของตลาดหุ้นโลก
- กองทุนหลัก iShares MSCI ACWI ETF กองทุน ETF ที่เน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี MSCI ACWI Index ที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก และมีค่าใช้จ่ายในระดับต่ำ เอื้อต่อศักยภาพในการสะท้อนความเคลื่อนไหวของดัชนี และการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
- ดัชนี MSCI ACWI Index มีกระจายน้ำหนักการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรมและภูมิภาคทั่วโลก จึงไม่ผันผวนไปตามอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งมากเกินไป
- ทางเลือกการลงทุนเพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนไปกับการเติบโตของตลาดหุ้นญี่ปุ่น และเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวซึ่งจะผลักดันการบริโภคในประเทศ
- กองทุนหลัก NEXT FUNDS Nikkei 225 Exchange Traded Fund เป็น 1 ในกองทุนดัชนี Nikkei 225 ETF ชั้นนำในญี่ปุ่น บริหารโดย Nomura AM ที่เน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี Nikkei 225 ซึ่งเป็นดัชนีชั้นนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น 225 บริษัทที่มีสภาพคล่องสูง ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ IT กลุ่มค้าปลีก ยา สามารถสะท้อนการเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจของญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี (ที่มา: Fact sheet, Nomura ณ 30 ก.ค. 68)
- โอกาสการเติบโตอย่างมีศักยภาพไปกับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนและฮ่องกง อาทิ การประยุกต์ใช้ AI ของจีน ที่รัฐบาลมีเป้าหมายผลักดันนำมาใช้ในอุตสาหกรรมหลักภายในปี 2030 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ รวมไปถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนจีน - กำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ สะท้อนความแข็งแกร่งของภาคธุรกิจ (ที่มา: Bloomberg ณ 17 ก.ย. 68)
- กองทุนหลัก Hang Seng China Enterprises Index ETF มุ่งหวังสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับดัชนี Hang Seng China Enterprises ซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทจีนชั้นนำ 50 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง มีขนาดใหญ่และสภาพคล่องสูง ครอบคลุมอุตสาหกรรมสำคัญๆ เช่น เทคโนโลยีและการเงิน รับโอกาสการเติบโตไปกับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนและฮ่องกง (ที่มา: Hang Seng Investment, Morningstar Asia Limited ณ 30 ก.ค. 68
- โอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากศักยภาพการเติบโตของจีนในอนาคต หนุนด้วยปัจจัยต่างๆ ทั้งเรื่องผลตอบแทนตราสารหนี้ที่ชะลอลง หนุนให้นักลงทุนหันมามองโอกาสในตลาดหุ้น แนวโน้มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ช่วยเสริมบรรยากาศลงทุน และการซื้อหุ้นคืน(Buyback) ของบริษัทจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความเชื่อมั่นต่อมูลค่าหุ้น
- กองทุนหลัก ChinaAMC CSI 300 Index ETF หนึ่งในกองทุน ETF ที่เน้นลงทุนในหุ้นจีน A-Shares ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยหุ้นจีน A-Shares 300 บริษัทแรกที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูง ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม และทุกศักยภาพการเติบโตของจีนในระยะยาว รวมถึงกลุ่มเศรษฐกิจยุคใหม่ หรือ “New economy” (ที่มา: ChinaAMC(HK) ณ 30 ก.ค. 68)
- โอกาสสร้างการเติบโตไปพร้อมกับการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากเงินทุนของกองทุนวายุภักษ์ และปัจจัยด้านการเมืองที่มีความชัดเจนมากขึ้น รวมไปถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
- มีเป้าหมายเพื่อสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี SET100 โดยความผันผวนของส่วนต่างผลตอบแทนเฉลี่ยของกองทุนและดัชนีชี้วัดไม่เกิน 1.00% ต่อปี
พิเศษ! รับโปรโมชันเพิ่มเมื่อลงทุนในกลุ่มกองทุน RMF / Thai ESG กรุงศรีตามเงื่อนไข โปรดศึกษารายละเอียดด้านล่าง*
ข้อมูลกองทุน คลิก: KFUSINDFXRMF | KFNDQRMF | KFEMXCNRMF | KF-WORLD-INDXRMF | KF-JP-INDXRMF | KF-HSHARE-INDXRMF | KF-CSI300-INDXRMF | KFS100RMF
เงื่อนไขการซื้อกองทุนด้วยบัตรเครดิต
- ผู้ลงทุนสามารถใช้บัตรเครดิตในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ที่ร่วมรายการ ได้แก่ บัตรเครดิต กรุงศรี ทุกประเภท, บัตรเครดิต โฮมโปร วีซ่า แพลทินัม, บัตรเครดิต แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, บัตรเครดิต เอไอเอ วีซ่า, บัตรเครดิต สยามทาคาชิมายะ, บัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม, บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน , บัตรเครดิตโลตัส, บัตรเครดิต กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ วีซ่า และเอ็กซ์ยู บัตรเครดิต ดิจิทัล เพื่อซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนในกลุ่ม RMF ของบริษัทได้ (ยกเว้นกองทุน KFCASHRMF, KFAFIXRMF, KFGOVRMF, KFLTGOVRMF, KFMTFIRMF และ RMF ในปี 2568 ที่บริษัทอาจประกาศยกเว้นภายหลัง)
- เงื่อนไขการใช้บัตรเครดิตจะเป็นไปตามที่บริษัทและบริษัทบัตรเครดิตกำหนด
- บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของการซื้อด้วยบัตรเครดิตโดยมิต้องแจ้งล่วงหน้า ในกรณีมีข้อพิพาทคำตัดสินของบริษัทถือเป็นที่สุด
คำเตือน/นโยบายการลงทุน
- เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- RMF ลงทุนเพื่อเกษียณอายุ | ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหากไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน
- ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมเป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- KFUSINDFXRMF ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ iShares Core S&P 500 ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนหลัก ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P 500 เพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนของกองทุนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี S&P 500
- KFNDQRMF ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ Invesco NASDAQ 100 ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี NASDAQ-100 โดยจะลงทุนอย่างน้อย 90% ของ NAV ซึ่งประกอบด้วยหุ้นของบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงินทั้งในประเทศและนอกสหรัฐอเมริกาที่ใหญ่ที่สุดตามราคาตลาดจำนวน 100 บริษัท ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ
- KFEMXCNRMF ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ iShares MSCI Emerging Markets ex China ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี MSCI Emerging Markets ex China เพื่อมุ่งหวังสร้างผลตอบแทนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI Emerging Markets ex China
- KF-WORLD-INDXRMF ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ iShares MSCI ACWI ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี MSCI ACWI เพื่อมุ่งหวังผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี โดยกองทุนหลักจะลงทุนอย่างน้อย 80% ของ NAV ในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีดังกล่าว บริษัทที่บริหารจัดการกองทุนหลัก คือ BlackRock Fund Advisors กองทุนอาจลงทุนในตราสารที่มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) และ/หรือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient Portfolio Management)
- KF-JP-INDXRMF ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ NEXT FUNDS Nikkei 225 Exchange Traded Fund (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนหลักจะลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี Nikkei 225 Total Return Index มีเป้าหมายในการบริหารกองทุนให้สัดส่วนการถือครองหุ้นรายตัวของกองทุนมีความสอดคล้องกับสัดส่วนของหุ้นรายตัวในดัชนี Nikkei 225 Total Return Index
- KF-HSHARE-INDXRMF ลงทุนใน Hang Seng China Enterprises Index ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของ NAV กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี Hang Seng China Enterprises (“ดัชนีอ้างอิง”) เกือบทั้งหมด
- KF-CSI300-INDXRMF ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ ChinaAMC CSI 300 Index ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนโดยตรงในหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี CSI 300 เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีดังกล่าว
- KFS100RMF ลงทุนในหุ้นจดทะเบียนโดยเฉลี่ยต่อปีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนดัชนี SET100 มากที่สุด ทั้งนี้ การลงทุนจะมีลักษณะเป็น Passive Management
- ทุกกองทุนมีระดับความเสี่ยง: 6 – เสี่ยงสูง
- สำหรับ KFUSINDFXRMF จะไม่ใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน | ส่วน KFEMXCNRMF / KFNDQRMF / KF-WORLD-INDXRMF / KF-CSI300-INDXRMF/ KF-HSHARE-INDXRMF ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน กองทุนเหล่านี้จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
