ข่าว/ประกาศกองทุน
Q&A กองทุน Thai ESGX
18 มีนาคม 2568
ส่วนที่ 1 : ทำความเข้าใจกองทุน Thai ESGX และสิทธิประโยชน์ทางภาษี
1.1 Thai ESGX คืออะไร?
- กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thailand ESG Extra Fund: Thai ESGX) เป็นกองทุนรวมที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีรองรับการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF และเงินลงทุนใหม่ สำหรับการลงทุนในช่วงเวลาที่กำหนด 2 เดือน (คาดว่า พ.ค. - มิ.ย. 68)
- ทั้งนี้ Thai ESGX ต้องลงทุนในทรัพย์สินที่ออกโดยผู้ออกหรือกิจการในประเทศไทยที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืนตามหลักเกณฑ์เดียวกันกับกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV โดยจะต้องลงทุนในหุ้นกลุ่มความยั่งยืน โดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของ NAV
- ประเภทสินทรัพย์ที่ Thai ESGX ต้องลงทุนในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV ประกอบด้วย
- หุ้นกลุ่มความยั่งยืนใน SET หรือ mai ไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของ NAV (ไม่จำเป็นต้องลงทุนเฉพาะหุ้นใน SET ESG Ratings เพียงอย่างเดียว*)
- ตราสารหนี้ในกลุ่มความยั่งยืน
- โทเคนดิจิทัลเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน
- ทั้งนี้ Thai ESGX สามารถลงทุนหุ้นไทยที่ไม่ใช่ ESG ได้ เพราะส่วนการลงทุนที่เหลืออีก 20% ของ NAV สามารถลงทุนหุ้นไทยที่ไม่ใช่ ESG ได้
- ได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ESG ratings providers ที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากลว่า มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม (environment: E) หรือด้านความยั่งยืน (ESG)
- มีการเปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แผนการจัดการ และการตั้งเป้าหมายเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ที่ผ่านการทวนสอบการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์โดยผู้ทวนสอบ
- มีบรรษัทภิบาล (governance: G) ในระดับดีเลิศ ซึ่งต้องได้รับ CGR ซึ่งจัดทำโดย IOD ตั้งแต่ 90 คะแนนเป็นต้นไป มีการเปิดเผยเป้าหมายและแผนการเพิ่มมูลค่าบริษัท (corporate value up plan) การยกระดับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม และมีการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผน
1.2 Thai ESGX ต่างจาก Thai ESG เดิมอย่างไร
Thai ESGX มีเงื่อนไขการลงทุนเพิ่มเติม คือ ต้องลงทุนหุ้นกลุ่มความยั่งยืนไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV และเปิดรับสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม สูงสุด 500,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไข 30% ของเงินได้พึงประเมิน
ข้อมูล | Thai ESG | Thai ESGX |
นโยบายลงทุน | - ลงทุนในทรัพย์สินที่ออกโดยผู้ออกหรือกิจการในประเทศไทยที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืน ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV - ลงทุนได้ทั้งหุ้นไทยยั่งยืน/ที่ได้รับการจัดอันดับ ESG Rating ตามหลัก ESG ตราสารหนี้ด้านความยั่งยืน (ESG Bond) และโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน |
- ลงทุนในทรัพย์สินที่ออกโดยผู้ออกหรือกิจการในประเทศไทยที่มีคุณสมบัติด้านความยั่งยืน ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV - เงื่อนไขเพิ่มเติมเฉพาะ Thai ESGX ต้องลงทุนหุ้นกลุ่มความยั่งยืน ไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV |
สิทธิประโยชน์ทางภาษี | ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท | - วงเงินลดหย่อนที่ 1 เงินใหม่ เฉพาะปี 2568 ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุด 300,000 บาท - วงเงินลดหย่อนที่ 2 สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม สูงสุด 500,000 บาท (ไม่มีเงื่อนไข 30% ของเงินได้พึงประเมิน) |
1.3 มีเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างไร?
สิทธิประโยชน์ทางภาษีแบ่งออกเป็น 2 วงเงินใหม่ โดยไม่รวมกับกองทุนและประกันเพื่อรองรับการเกษียณการทำงานอื่น ๆ ภายใต้เงื่อนไข ดังนี้
1.3.1) Thai ESGX (วงเงินลดหย่อนที่ 1) สำหรับเงินใหม่ที่บุคคลธรรมดาลงทุนในกองทุน Thai ESGX เฉพาะปี 2568 สูงสุด 300,000 บาท
- วงเงินลดหย่อน: ให้สิทธิลดหย่อนเฉพาะในปี 2568 ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท (เฉพาะปี 2568)
- ระยะเวลาลงทุน: เปิดระยะให้ลงทุนภายใน 2 เดือน (คาดว่าเริ่มเปิดขายหน่วยได้ทุกวันทำการของเดือน พ.ค. - มิ.ย. 68) จะเป็นวงเงินสิทธิประโยชน์ทางภาษีแยกจากการลงทุนในกองทุน Thai ESG ปกติ
- การถือครอง: ไม่น้อยกว่า 5 ปี (วันชนวัน นับแต่วันที่ลงทุน) เช่น ซื้อกองทุน Thai ESGX ในวันที่ 1 มิ.ย. 68 ถือครองจนครบ 5 ปี ถึงวันที่ 31 พ.ค. 73 จะสามารถขายออกได้นับแต่วันที่ 1 มิ.ย. 73 เป็นต้นไป
- วงเงินลดหย่อน: สูงสุด 500,000 บาท รวม ทยอยลดหย่อน 5 ปี ตั้งแต่ปีภาษี 2568 – 2572
- ปีแรก (2568): สูงสุด 300,000 บาท
- ปีที่ 2 - 5 (2569 - 2572): ให้ทยอยลดหย่อนโดยนำส่วนเกินมาหารเฉลี่ยและลดหย่อนปีละเท่าๆ กัน
- ตัวอย่างเช่น การสับเปลี่ยน LTF ไป THAIESGX มูลค่า 380,000 จะลดหย่อนได้ดังนี้
- ปีที่ 1 (ปี 2568) ลดหย่อนได้ 300,000 บาท
- ปีที่ 2 - 5 (ปี 2569 - 2572) ลดหย่อนได้ปีละ 20,000 บาท
- ตัวอย่างเช่น การสับเปลี่ยน LTF ไป THAIESGX มูลค่า 380,000 จะลดหย่อนได้ดังนี้
- หน่วยลงทุนที่มีสิทธิ: หน่วยลงทุนที่ผู้ถือหน่วย LTF ถือครอง ณ วันที่ ครม. มีมติอนุมัติมาตรการข้างต้น (ไม่รวม class หน่วยภาษีอื่นภายใต้กองทุนเดียวกัน เช่น class SSF)
- การถือครอง: Thai ESGX ที่สับเปลี่ยนจาก LTF รวมทั้งหมด ต้องถือครองไม่น้อยกว่า 5 ปี (วันชนวันนับจากวันที่ส่งคำสั่งสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม มายังกองทุน Thai ESGX)
- ระยะเวลาในการสับเปลี่ยน: ภายใน 2 เดือน (คาดว่าเป็นช่วงเดียวกันกับการเปิดขายหน่วย Thai ESGX (วงเงินลดหย่อนที่ 1) คือ เริ่มเปิดให้สับเปลี่ยนหน่วย LTF มาเป็น Thai ESGX ได้ทุกวันทำการของเดือน พ.ค. - มิ.ย. 68)
- ต้องไม่ขายและไม่สับเปลี่ยนหน่วย LTF (ไม่ว่าจะเป็นสับเปลี่ยนไปยัง LTF อื่น ทั้งภายใต้ บลจ. เดียวกัน หรือข้าม บลจ. เพราะ จะทำให้กองทุน LTF ต้นทางต้องขายหลักทรัพย์ที่ถือครองออกมาตามมูลค่า NAV ของหน่วยลงทุนที่สับเปลี่ยน และโอนเงินสดไปให้กองทุน LTF ปลายทางเพื่อนำไปลงทุนต่อ)
- ต้องสับเปลี่ยนหน่วย LTF ที่ถือครองทั้งหมดตามข้อ 1. ไป Thai ESGX ทั้งหมดของทุกกอง ทุก บลจ. (ยกเว้นหน่วยใน class SSF) ภายใน พ.ค. - มิ.ย. 68 ทั้งนี้ ไม่สามารถสับเปลี่ยนเพียงบางส่วนได้ แต่อาจทยอยสับเปลี่ยนไป Thai ESGX ได้ให้ครบทั้งหมดทุกกองทุน ทุก บลจ. ภายในวันที่ 30 มิ.ย. 68
- ถือครองหน่วย 5 ปี วันชนวันนับแต่วันที่สับเปลี่ยนหน่วย LTF ไป Thai ESGX
1.4 กรณีผู้ถือหน่วยกองทุนรวม LTF ประสงค์จะย้ายไปกองทุนรวม Thai ESGX หากมีเงินลงทุนมากกว่า 500,000 บาท จะมีผลอย่างไร?
- หากผู้ถือหน่วยลงทุนต้องการใช้สิทธิลดหย่อนวงเงินที่ 2 จะต้องสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดในทุกกองทุนทุก บลจ. ของผู้ถือหน่วยลงทุนรายนั้น ๆ มาเป็นหน่วยลงทุนกองทุน Thai ESGX ระหว่างวันที่ 13 พ.ค. – 30 มิ.ย. 2568
- โดยหน่วยลงทุนที่สับเปลี่ยนมาแล้วรวมทั้งหมด ต้องถือครองตามเงื่อนไข ไม่น้อยกว่า 5 ปีด้วย (นับวันชนวัน จากวันที่รายการสับเปลี่ยนกองทุน LTF มากองทุน Thai ESGX มีผล) แต่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะสามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของเงินลงทุนส่วนนี้ได้แค่ 5 แสนบาท โดยทยอยใช้สิทธิสำหรับปีภาษี 2568 จำนวน 300,000 บาท และ ปีภาษี 2569 - 2572 จะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ปีละเท่าๆ กันแต่ไม่เกินปีละ 50,000 บาท
1.5 สรุปแล้วในปีภาษี 2568 ผู้ลงทุนมีวงเงินที่สามารถลดหย่อนสำหรับการลงทุนในกอง ESG อย่างไรบ้าง
มีกองทุนรวมกลุ่ม Thai ESG ที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี 3 วงเงิน รวมสูงสุดไม่เกิน 900,000 บาท ดังนี้
- เงินลงทุนใหม่สำหรับผู้ลงทุนทุกรายที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Thai ESG ในปัจจุบัน โดยลดหย่อนไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
- เงินลงทุนใหม่สำหรับผู้ลงทุนทุกรายที่ลงทุนใน Thai ESGX ในช่วงระยะเวลา 2 เดือนที่เปิดขายในปี 2568 โดยลดหย่อนไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
- สำหรับผู้ถือหน่วย LTF ที่สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจาก LTF ทุกกองทุนไป Thai ESGX โดยมีวงเงินลดหย่อน ดังนี้
- ปีแรก (2568): สูงสุด 300,000 บาท
- ปีที่ 2 - 5 (2569 - 2572): สูงสุดปีละ 50,000 บาท
หมายเหตุ : การใช้สิทธิจะใช้สิทธิได้ตามจำนวนเงินที่ลงทุนจริง แต่ไม่เกินที่กำหนด ตัวเลขในตารางนี้เป็นตัวเลขจำนวนเงินสูงสุดที่ใช้สิทธิ์ได้
1.6 ตรวจสอบยอด LTF ที่สามารถสับเปลี่ยน ได้จากที่ใด
- ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถติดต่อธนาคารกรุงศรีฯ หรือ บลจ. กรุงศรี เพื่อตรวจสอบจำนวนหน่วยลงทุนของกองทุน LTF ของบลจ.กรุงศรี ที่ถือครองและสิทธิในการลดหย่อนภาษีได้ สำหรับการตรวจสอบยอดหน่วยลงทุนกองทุน LTF ทั้งหมด รวมทั้งของ บลจ. อื่นๆ ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถตรวจสอบได้จาก https://www.set.or.th/th/ltf/overview
1.7 หลัง 11 มี.ค. 2568 สามารถขาย หรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนกองทุน LTF ไปยังกองทุน LTF อื่น ภายใต้ บลจ. เดียวกัน หรือ ต่าง บลจ. ได้หรือไม่
- หลัง 11 มี.ค. 2568 ผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุน LTF ที่ประสงค์จะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีวงเงินลดหย่อนที่ 2 ต้องไม่ขาย และไม่สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนกองทุน LTF ถึงแม้จะเป็นกองทุนปลายทางจะเป็นกองทุน LTF เหมือนกันก็ตาม ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นกฎกระทรวง ของกรมสรรพากร ที่กำหนดไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้กองทุน LTF ต้นทางต้องขายหลักทรัพย์ที่ออกมา
- ดังนั้น หากผู้ถือหน่วยลงทุนมีการขาย หรือ สับเปลี่ยนกองทุน LTF หลัง 11 มี.ค. 2568 ไปแล้ว ระบบจะล็อคไม่ให้ทำรายการสับเปลี่ยนไปยังกองทุน Thai ESGX ชนิดเงินลงทุนเดิม (-L) ได้ เนื่องจากผู้ถือหน่วยลงทุนรายดังกล่าว จะไม่ได้รับสิทธิตามวงเงินลดหย่อนที่ 2 แล้ว แต่ผู้ถือหน่วยลงทุนยังคงสามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนส่วนที่เหลือของกองทุน LTF ไปยังกองทุน Thai ESGX ชนิดเงินลงทุนใหม่ปี 68 (-68) และใช้สิทธิตามวงเงินลดหย่อน 1 ได้เหมือนกันสับเปลี่ยนกองทุนอื่นๆ
- ทั้งนี้ ยกเว้น กรณีโอนหน่วยลงทุน LTF ภายใน บลจ. เดียวกัน ซึ่งโอนจากเลขผู้ถือหน่วยหนึ่ง ไปยังเลขผู้ถือหน่วยหนึ่งที่มีชื่อเป็นบุคคลเดียวกัน จะยังมีสิทธิตามวงเงินลดหย่อนที่ 2 อยู่
1.8 ผู้ลงทุนต้องขายหน่วยลงทุน LTF เพื่อสับเปลี่ยนไป Thai ESGX หรือไม่ และส่งผลให้ บลจ. ต้องขายหลักทรัพย์ออกมาหรือไม่
การสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ไป Thai ESGX จะใช้วิธี pay in kind ด้วยกระบวนการที่เป็นธรรมต่อผู้ถือหน่วยของทั้งกองทุนต้นทางและกองทุนปลายทาง โดยเมื่อผู้ถือหน่วยส่งคำสั่งสับเปลี่ยนในมูลค่าเท่าใด กองทุน LTF จะโอนหลักทรัพย์ไปให้ Thai ESGX ในมูลค่าเดียวกัน ทำให้กองทุน LTF ไม่จำเป็นต้องขายหลักทรัพย์ที่ลงทุนอยู่ในทันที ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่กองทุน LTF ถืออยู่
ที่มา: บลจ.กรุงศรี ณ เม.ย. 68 / ข้อมูลรวบรวมจาก สำนักงาน กลต. ณ 14 มี.ค. 68 และ ตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในกองทุนรวม Thai ESGX แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 126
ส่วนที่ 2: กองทุน Thai ESGX ของ บลจ. กรุงศรี
ข้อมูลกองทุนและโปรโมชัน คลิกที่นี่
- Thai ESG/ Thai ESGX เป็นกองทุนที่ส่งเสริมการออมระยะยาวและสนับสนุนการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย
- เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน | ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี หากไม่ปฎิบัติตามเงื่อนไขการลงทุน
เอกสารประกอบเปิดด้วยโปรแกรม Acrobat Reader หากท่านไม่มีโปรแกรมดังกล่าว คลิกเพื่อ ดาวน์โหลด โปรแกรม (ไม่มีค่าใช้จ่าย)