Flash Update


Flash Update 8 ตุลาคม 2564

08/10/2564

ผลกระทบจากข่าวบริษัทอสังหาฯ จีน Fantasia และ Sinic ผิดนัดชำระหนี้

 

สรุปประเด็นสำคัญ

  • Fantasia Group ผิดนัดชำระหนี้ และ Sinic Group คาดว่าจะผิดนัดชำระหนี้ตามมา โดยทั้ง 2 บริษัทมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับ Evergrande
  • คาดว่ารัฐบาลจีนจะเข้ามาช่วยเหลือ ดังเช่นกรณี Evergrande ที่มีการอัดฉีดเงินเข้าระบบ และเข้ามาซื้อทรัพย์สินของ Evergrande และจะไม่ปล่อยให้มีผลกระทบในวงกว้าง
  • KF-ELI และ KFDIVERS-A ลงทุนใน Fantasia Group ไม่มาก และไม่มีการลงทุนใน Sinic Group สำหรับ KFAHYBON-A มีสัดส่วนทั้ง 2 บริษัทรวมประมาณ 1.58%
  • ปัจจุบันราคา China Property High Yield เริ่มต่ำเกินไป และคาดว่าทางรัฐบาลจีนจะออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ตลาดฟื้นตัวได้

สถานการณ์ Fantasia Group และ Sinic Group 
  • ข่าวล่าสุด บริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนคือ Fantasia Group ได้ผิดนัดชำระหนี้ 206 ล้าน USD เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (4 ต.ค.) และคาดว่า Sinic Group จะผิดนัดชำระหนี้ 246 ล้าน USD ในวันที่ 18 ต.ค. นี้ ซึ่งทั้ง 2 บริษัท มีขนาดไม่ใหญ่มาก ผลกระทบต่อระบบโดยรวมจึงน้อย เมื่อเทียบกับ Evergrande ทั้งด้านยอดขาย และหนี้สิน (Liabilities) จะถือว่าเล็กกว่ามาก
    • Evergrande ยอดขายครึ่งปีแรก 2.2 แสนล้านหยวน (30 มิ.ย.) หนี้สิน 2 ล้านล้านหยวน
    • Fantasia ยอดขายครึ่งปีแรก 1.1 หมื่นล้านหยวน (30 มิ.ย.) หนี้สิน 8.3 หมื่นล้านหยวน
    • Sinic ยอดขายครึ่งปีแรก 1.1 หมื่นล้านหยวน (30 มิ.ย.) หนี้สิน 9.2 หมื่นล้านหยวน
รัฐบาลจีนมีแนวโน้มเข้ามาช่วยเหลือ
  • รัฐบาลได้เข้ามาช่วยเหลือในกรณีของ Evergrande เพื่อให้การล้มเป็นแบบที่ควบคุมได้ เช่น มีการอัดฉีดเงินเข้าระบบ ให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐบาลจีนเข้ามาซื้อทรัพย์สินของ Evergrande และยืนยันให้ความช่วยเหลือผู้ที่ซื้อบ้านของ Evergrande เป็นต้น
  • ในอดีตที่ผ่านมา จีนเข้ามาช่วยเหลือและควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์ (Property Sector) โดยตลอด ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ราคาบ้านจะอยู่ในกรอบ -5% ถึง +10%
  • ปัจจุบันรัฐบาลท้องถิ่นเริ่มผ่อนคลายมาตรการในภาคอสังหาริมทรัพย์แล้ว และมีการคาดการณ์มากขึ้นว่าจีนจะออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น จากภาพเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัว
ยืนยันว่าไม่ใช่ความเสี่ยงที่กระทบทั้งระบบ (Systemic Risk)
  • เชื่อมั่นว่า รัฐบาลจีนจะไม่ปล่อยให้ Property Sector ตกอยู่ในภาวะอันตราย แต่รัฐบาลต้องการแก้ไขปัญหาหนี้ ซึ่งจะเป็นเรื่องดีในระยะกลาง
  • คาดว่าจะมีบางบริษัทที่มีหนี้สูง มีโอกาสจะผิดนัดชำระหนี้ได้ (Default) ต่อจากนี้ แต่จะไม่กระทบในวงกว้าง โดยทางการจีนจะเข้ามาดำเนินการเพื่อให้เป็นการล้มแบบที่ควบคุมได้

     มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

 

สำหรับการลงทุนในบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนของกองทุนบลจ.กรุงศรี

  • กองทุน KF-ELI มีการลงทุนใน Fantasia Group 0.002% (ณ วันที่ 30 มิ.ย. 64)
  • กองทุน KFDIVERS-A มีการลงทุนใน Fantasia Group 0.004% (ณ วันที่ 30 มิ.ย. 64)
  • กองทุน KFAHYBON-A มีการลงทุนใน Fantasia Group 1.07% และมีการลงทุนใน Sinic Group 0.51% (ณ วันที่ 31 ส.ค. 64)

ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองสำหรับการลงทุนในกองทุน KFAHYBON-A ว่าปัจจุบันอาจไม่ใช่เวลาที่จะตัดขาดทุน (Cut Loss) แนะนำให้ผู้ลงทุนถือกองทุนไว้ เพื่อรอการฟื้นตัวในอนาคต เนื่องจาก

  • ปัจจุบันราคาตราสารหนี้ China Property High Yield เป็นราคาที่คาดว่าจะเกิดการผิดนัดชำระหนี้ (Default) 20% ซึ่งเป็นการคาดการณ์ในระดับที่สูงเกินไป
  • ตราสารหนี้ที่กองทุน KFAHYBON-A ถืออยู่มีระดับผลตอบแทน (Yield to Maturity) สูง ที่ระดับ 10% (31 ส.ค. 64)
  • มีแนวโน้มที่รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง
  • มีการคาดการณ์กันมากขึ้นว่า จีนจะออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น จากภาพเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัว ซึ่งจะทำให้ตลาดฟื้นตัวได้

 


นโยบายการลงทุนและคำเตือน

  • KF-ELI ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ PIMCO Emerging Local Bond Fund, Class E, Accumulation, USD ซึ่งจัดตั้งและบริหารจัดการโดยบริษัท Pacific Investment Management Company LLC (PIMCO) ภายใต้กฎหมายของประเทศไอร์แลนด์ และจะลงทุนในสกุลเงินเหรียญสหรัฐเป็นสกุลหลักเพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV ระดับความเสี่ยง 4 - เสี่ยงปานกลาง ค่อนข้างต่ำ | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ (โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย ≥ 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ)
  • KFDIVERS-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ PIMCO GIS Diversified Income Fund, Class Institutional - Income (USD) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทต่างๆ ทั่วโลก อย่างน้อย 2 ใน 3 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน โดยจะกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีวันครบกำหนดอายุของตราสารที่แตกต่างกัน รวมถึงตราสารหนี้ที่จัดอยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) ตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูง (High Yield) และตราสารหนี้แปลงสภาพ (Convertible Securities) นอกจากนี้ กองทุนหลักอาจลงทุนในตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตต่ำกว่า B โดยจะลงทุนได้ไม่เกิน 10% ของทรัพย์สินของกองทุนหลัก ระดับความเสี่ยง 5 - เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
  • KFAHYBON-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ BGF Asian High Yield Bond Fund, Class D2 USD (กองทุนหลัก) ) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV ระดับความเสี่ยง 6 - เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย ≥ 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ) | กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในตราสารที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตและสภาพคล่อง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก l กองทุนนี้เป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ข้อมูลกองทุน:  KF-ELI |   KFDIVERS-A  |   KFAHYBON-A
หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอดูหนังสือชี้ชวน โปรดติดต่อ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรีจำกัด โทร 0 2657 5757 หรืออีเมล krungsriasset.clientservice@krungsri.com
เอกสารประกอบเปิดด้วยโปรแกรม Acrobat Reader หากท่านไม่มีโปรแกรมดังกล่าว คลิกเพื่อ ดาวน์โหลด โปรแกรม (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

ย้อนกลับ

ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน