สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
09/03/2566

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกลบสลับกันไปหลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เสร็จสิ้นการแถลงนโยบายการเงินต่อสภาคองเกรสในวันที่ 2 ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคต
  • นายพาวเวลได้แถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ โดยย้ำว่า เฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี เฟดยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับขนาดของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. โดยเฟดจะพิจารณาจากข้อมูลที่ได้รับเกี่ยวกับตลาดแรงงานและเงินเฟ้อ ซึ่งหากข้อมูลบ่งชี้ให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้เร็วขึ้น เฟดก็พร้อมที่จะเพิ่มความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • นายพาวเวลกล่าวว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน ก.พ. ที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ที่ 10 มี.ค.นี้ถือเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญ รวมทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์หน้า ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 21-22 มี.ค.
  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 80% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 70% ในวันอังคาร และจากระดับ 31% ในวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันก่อนที่นายพาวเวลจะแถลงต่อสภาคองเกรสในวันแรก
  • ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 242,000 ตำแหน่งในเดือน ก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 205,000 ตำแหน่ง จากระดับ 119,000 ตำแหน่งในเดือน ม.ค.
  • ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงานลดลง 410,000 ตำแหน่งในเดือน ม.ค. สู่ระดับ 10.8 ล้านตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 10.5 ล้านตำแหน่ง นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขการเปิดรับมัครงานในเดือน ธ.ค. 2565 สู่ระดับ 11.2 ล้านตำแหน่ง จากเดิมที่ระดับ 11.0 ล้านตำแหน่ง โดยคาดว่าข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งนี้อาจจะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานานขึ้น
  • ยอดส่งออกเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 3.4% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน และยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 3.0% ส่งผลให้สหรัฐขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นสู่ 6.83 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจากขาดดุล 6.73 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก่อนหน้า
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อย โดยได้แรงหนุนจากความเห็นล่าสุดของนายเจอโรม พาวเวล ที่ระบุว่า เฟดยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับขนาดของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ด้านสำนักงานสถิติยุโรปเปิดเผยว่า เศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาส 4/65 ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า หลังจากโต 0.4% ในไตรมาส 3/65 โดยการบริโภคภาคครัวเรือนและการลงทุนภาคธุรกิจหดตัว เนื่องจากเงินเฟ้อทรงตัวในระดับสูง ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น และปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทานส่งผลกระทบต่อความสามารถในการใช้จ่ายของผู้บริโภคและกิจกรรมในภาคธุรกิจ
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบหลังจากนายเจอโรม พาวเวล เตือนว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นและเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
  • ตลาดหุ้นไทยวานนี้ซื้อขายในแดนลบตลอดทั้งวัน ปิดปรับตัวลดลง ทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค หลังประธานเฟดระบุว่าเฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยแรงกว่าที่คาด

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังคงแกว่งตัวอยู่ในแดนลบจากแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก หลังจากนายเจอโรม พาวเวล กล่าวว่าอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงและนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ แต่ถ้าพิจารณาในแง่ระดับราคาพบว่าการที่ตลาดหุ้นไทยย่อตัวลงมาอยู่ในระดับปัจจุบัน ถือว่าถูกจากระดับก่อนหน้าเมื่อเทียบกับกำไรต่อหุ้น แนะนำทยอยสะสมตามสัดส่วนที่เหมาะสมของพอร์ตการลงทุน

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,798.40 จุด ลดลง 58.06 จุด หรือ -0.18%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,992.01 จุด เพิ่มขึ้น 5.64 จุด หรือ +0.14% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,576.00 จุด เพิ่มขึ้น 45.67 จุด หรือ +0.40%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 460.99 จุด เพิ่มขึ้น 0.39 จุด หรือ +0.09%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,283.25 จุด ลดลง 1.85 จุด หรือ -0.06%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 92 เซนต์ หรือ 1.19% ปิดที่ 76.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 1,818.60 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,612.60 ลบ 5.91 จุด (-0.37%) Trading Volume: 59,255.95 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (-0.95%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (-0.75%) และกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (+0.45%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,987.97 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดแกว่งตัว 1-2 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1 bp
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1-2 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดแกว่งตัว 1 bp
      • IRS SWAP ปิดแกว่งตัว 2-5 bps
    • นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 15,847.39 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,041.88 ล้านบาท
ที่มา : Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทย คลิก:
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน