สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
18/12/2566

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกในวันที่ 15 ธ.ค. เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
  • ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้น หลังเฟดส่งสัญญาณในการแถลงนโยบายเมื่อวันพุธ (13 ธ.ค.) ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า แต่อย่างไรก็ตามความเห็นของนายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขานิวยอร์กที่ระบุว่า เร็วเกินไปที่จะพูดถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้น ได้ลดแรงบวกในตลาด
  • เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยในวันศุกร์ (15 ธ.ค.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.0 ในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 50.7 ในเดือน พ.ย. โดยดัชนี PMI ที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคธุรกิจสหรัฐ
  • ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้าในเดือน พ.ย. หลังจากลดลง 0.9% ในเดือน ต.ค.
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันที่ 15 ธ.ค.ขานรับการที่เฟดส่งสัญญาณเกี่ยวกับการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
  • ธนาคารบาร์เคลย์สคาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือน เม.ย. และจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมแต่ละครั้งติดต่อกันไปจนถึงเดือน ม.ค. 2568
  • นายฟรองซัวส์ วิลเลรอย เดอ กัลเฮา ผู้กำหนดนโยบายของ ECB ระบุว่า แม้การดำเนินการครั้งต่อไปของ ECB ควรจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่อาจเป็นการดีที่จะรอดูสถานการณ์ก่อนการตัดสินใจใดๆ
  • PMI แบบรวมของญี่ปุ่น ในเบื้องต้นเพิ่มขึ้นสู่ 50.4 ในเดือน ธ.ค. จาก 49.6 ในเดือน พ.ย. โดย PMI ภาคบริการเพิ่มขึ้นสู่ 52.0 จาก 50.8 ในขณะที่ PMI ภาคการผลิตลดลงสู่ 47.7 จาก 48.3
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบเล็กน้อยในวันที่ 15 ธ.ค. จากแรงเทขายทำกำไรหลังเปิดตลาดภาคเช้าในแดนบวก โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี (14 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับการที่เฟดส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนในเดือน พ.ย. ขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2565
  • ธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ประเภท 1 ปี ไว้ที่ 2.50% พร้อมทั้งอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบธนาคารผ่าน MLF ประเภท 1 ปีรวม 1.45 ล้านล้านหยวน ทางด้านยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 10.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน พ.ย. เร่งตัวจากเพิ่มขึ้น 7.6% ในเดือน ต.ค. โดยยอดค้าปลีกขยายตัวเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน และขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. ตามการพุ่งขึ้นของยอดขายเครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์สื่อสาร และยานยนต์
  • ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนเพิ่มขึ้น 6.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน พ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 4.6% ในเดือน ต.ค. และเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2565 การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วง 11 เดือนแรกเพิ่มขึ้น 2.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ตามการเพิ่มขึ้นของการลงทุนของภาคการผลิต สำหรับอัตราการว่างงานทรงตัวที่ 5.0% ในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2564
  • ตลาดหุ้นไทยวันที่ 15 ธ.ค. ซื้อขายในแดนบวกตลอดทั้งวัน ปิดปรับตัวขึ้นค่อนข้างมากหลังจากปรับตัวขึ้นแรงในวันก่อนหน้า ในขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคปิดปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยได้แรงหนุนจาก bond yield ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในปีหน้า

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

จากการที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อประกาศออกมาอย่างแข็งแกร่ง ช่วยหนุนตลาดด้านปัจจัยพื้นฐานให้มีความน่าสนใจ อีกทั้งยังได้แรงส่งขนาดใหญ่จากเฟด ที่มีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ในปีหน้า ส่งผลให้บรรยากาศในตลาดหุ้นมีแรงซื้อกันอย่างคึกคัก แต่อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในระยะที่ผ่านมา อาจจะเผชิญแรงขายทำกำไรในระยะสั้นได้

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,305.16 จุด เพิ่มขึ้น 56.81 จุด หรือ +0.15%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,719.19 จุด ลดลง 0.36 จุด หรือ -0.001% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,813.92 จุด เพิ่มขึ้น 52.36 จุด หรือ +0.35%
    • สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์บวก 2.9%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 2.5% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 2.8%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 476.61 จุด เพิ่มขึ้น 0.04 จุด หรือ +0.01% และปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 2,942.56 จุด ลดลง 16.43 จุด หรือ -0.56%
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 9.20 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 2,035.70 ดอลลาร์/ออนซ์
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค. ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.21% ปิดที่ 71.43 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปิดบวก 0.3% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,391.03 บวก 12.09 จุด (+0.88%) Trading Volume: 61,137.63 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายมาก โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (+1.48%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (+0.76%) และกลุ่มพาณิชย์ (+1.99%)  นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,193.43 ล้านบาท
      อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1-3 bps แบ่งตามช่วงอายุดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1-2 bps
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1-4 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 1-3 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับขึ้น 2-7 bps     
    • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 3,394.95 ล้านบาท  นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 218.54 ล้านบาท 
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน