Login@ccess
LoginEm@ccess
TH
เกี่ยวกับบลจ.กรุงศรี
ข่าว/ประกาศกองทุน
สรุปภาวะตลาด
วางแผนการลงทุน
ติดต่อเรา
การทำรายการซื้อ-ขาย
เมนูหลัก
ค้นหา
Home
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
กองทุนรวม
หน้าหลักกองทุนรวม
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารตลาดเงิน
กองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้
กองทุนผสม
กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น
กองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ
กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)
กองทุนกรุงศรี 2TM
กองทุนอสังหาริมทรัพย์
กองทุนที่ลงทุนในทรัพย์สินทางเลือก
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
Employee’s choice
จุดเด่นของ บลจ.กรุงศรี
แบบประเมินความเสี่ยง
ติดต่อกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
มูลค่าหน่วยลงทุน
ผลการดำเนินงานกองทุนรวม
Krungsri @ccess Mobile App
ลงทุนกองทุนกรุงศรี
สะดวกกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว
ดูเพิ่มเติม
ราคาหน่วยลงทุนย้อนหลัง
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF / RMF / LTF
ค้นหา
หน้าหลัก
>
วางแผนการลงทุน
>
เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน
>
ผลกระทบจากนโยบายเฟดกับกองทุนตราสารหนี้
Quicklink
ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม
สมัครบริการ @ccess online
กองทุนรวม
เปิดบัญชีและทำรายการ
ทดสอบระดับความเสี่ยง
หนังสือรับรองฯ SSF / RMF / LTF
เข้าสู่ระบบ
@ccess online
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)
Seminar Booking
ผลกระทบจากนโยบายเฟดกับกองทุนตราสารหนี้
ดร. ฐนิตพงศ์ ชื่นภิบาล
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารความเสี่ยงด้านการลงทุน บลจ. กรุงศรี จำกัด
จากการที่อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกอยู่ในระดับสูง ซึ่งมีสาเหตุมาจากราคาสินโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น กอปรกับปัญหาการขาดแคลนอุปทานทั้งในด้านวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และแรงงาน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงต่อไป
ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีแนวโน้มแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพราะถึงแม้ตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรกออกมาติดลบ แต่ก็มีสาเหตุหลักมาจากการระบาดของโอมิครอน และตัวเลขขาดดุลการค้าและบริการสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากการที่ตัวเลขการส่งออกและนำเข้าเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมีนาคม ท่ามกลางการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาคธุรกิจยังคงแข็งแกร่ง
นักลงทุนจึงกังวลว่าเฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยเฟดอาจพิจารณาขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในบางการประชุมในปีนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวหรือเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ในอนาคต
ทั้งนี้
จากการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการเฟดมีมติขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.5% สู่ 0.75 - 1.00% ตามคาด พร้อมทั้งประกาศเริ่มลดขนาดงบดุลในเดือนมิถุนายนนี้
โดยนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดระบุว่า เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุม 2 ครั้งถัดไป และคณะกรรมการยังไม่ได้มีการพิจารณาถึงการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% อย่างจริงจัง พร้อมทั้งคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะทยอยปรับตัวลดลงจากผลของฐานสูงในปีที่แล้ว
ผลการประชุมเฟดนี้บ่งชี้ว่า เฟดไม่ได้มีท่าทีแข็งกร้าวมากเท่าที่ตลาดคาด เนื่องจากเฟดได้ส่งสัญญาณให้ตลาดลดความคาดหวังเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.75% และการปรับลดงบดุลเป็นเพียงการปล่อยให้ตราสารครบอายุโดยไม่ซื้อเพิ่ม และไม่มีการพูดถึงการขายตราสารที่เฟดถืออยู่ออกมา อย่างไรก็ดี เฟดก็ไม่ได้ปฏิเสธถึงโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในอนาคต โดยล่าสุดตลาดคาดว่าเฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนพฤศจิกายนหลังจากขึ้นดอกเบี้ย 0.50% อย่างต่อเนื่องในการประชุมก่อนหน้านั้น
ความคาดหวังต่อทิศทางการดำเนินนโยบายของเฟดสะท้อนมาในตลาดตราสารหนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นต่อ (ราคาพันธบัตรปรับตัวลดลง) ส่งผลให้กองทุนตราสารหนี้ส่วนใหญ่ทั่วโลกให้ผลตอบแทนเป็นลบในปีนี้ ซึ่งเกิดจากการบันทึกราคาตลาดล่าสุด (mark to market)
ทั้งนี้ ตลาดมองว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในปัจจุบันอยู่ใกล้ระดับเป้าหมายที่คาดแล้ว เป็นการบ่งชี้ว่าตลาดตราสารหนี้น่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้นในอีกไม่นานนี้ อย่างไรก็ดี หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรแตะระดับเป้าหมายแล้ว ตลาดอาจปรับเพิ่มเป้าหมายต่อก็เป็นได้ จึงยังไม่มีสิ่งใดที่รับประกันว่าตลาดตราสารหนี้จะยุติการปรับตัวลดลง
สำหรับตัวเลขที่ตลาดจับตาอย่างใกล้ชิดได้แก่ รายงานอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงสู่ 8.3% จาก 8.5% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเงินเฟ้ออาจผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แต่อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังคงสูงกว่าที่ตลาดคาดว่าเงินเฟ้อเดือนเมษายนจะอยู่ที่ 8.1% นักลงทุนจึงกังวลว่าเงินเฟ้ออาจลดลงช้ากว่าที่คาด และเฟดอาจต้องมีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น
นอกจากการติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐซึ่งอาจส่งผลต่อคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับแนวโน้มการดำเนินนโยบายของเฟดแล้ว ความเห็นของคณะกรรมการเฟดก็เป็นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากคณะกรรมการเฟดออกมาให้ความเห็นตอกย้ำไปในทิศทางที่ไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาด ก็มีโอกาสสูงที่ตลาดจะปรับทิศทางไปตามความเห็นของคณะกรรมการเฟด ดังวลีในตลาดที่มักจะถูกยกมาเตือนว่า Don’t fight the Fed
ในส่วนของตลาดตราสารหนี้ไทยได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเช่นกัน ถึงแม้ ธปท. ระบุว่าจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยก็ตาม โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตามการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ส่งผลให้กองทุนตราสารหนี้ของไทยส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนติดลบในปีนี้เช่นกัน
แม้ว่าตลาดตราสารหนี้ในช่วงนี้ได้รับผลกระทบในด้านของราคาตราสารปรับตัวลดลง แต่มีความแตกต่างจากช่วงที่เริ่มเกิดการระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563 เนื่องจากในช่วงนั้นมีความเสี่ยงจากการที่ตราสารมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้ตราสารหนี้บางตัวให้ผลตอบแทนเป็นศูนย์ ในขณะที่
สถานการณ์ในปัจจุบันถึงแม้ราคาตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนปรับตัวลดลง แต่กองทุนยังจะได้รับผลตอบแทนจากการชำระหนี้ของตราสารหนี้เป็นปกติ เนื่องจากความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้อยู่ในระดับต่ำ และกองทุนส่วนใหญ่มีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐสูงกว่าช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 ดังนั้นความเสี่ยงโดยรวมของกองทุนตราสารหนี้ไทยจึงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าช่วงเริ่มเกิดวิกฤตโควิด-19 มาก
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมาก ในช่วงนี้อาจจะต้องย้ายเงินลงทุนไปลงทุนในกองทุนตลาดเงินเป็นการชั่วคราวเพื่อรอให้ตลาดตราสารหนี้โดยรวมมีความเสี่ยงด้านต่ำลดลง จึงค่อยกลับมาลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนดีกว่าในระยะยาว
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
กองทุนแนะนำ คลิก:
KFCASH-A
|
KFSMART
ย้อนกลับ
วางแผนการลงทุน
เริ่มต้นการลงทุน
เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน
วางแผนเพื่อลดหย่อนภาษี
แบบทดสอบระดับความเสี่ยง
เลือกกองทุนที่คุณสนใจ
-
การตั้งค่าคุกกี้
เพื่อให้เว็บไซด์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อาจมีการจัดเก็บข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบคุกกี้ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของคุณได้โดยตรง การอนุญาตให้เว็บไซด์นี้จัดเก็บข้อมูลดังกล่าวจะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นตามลักษณะความสนใจของคุณ ทั้งนี้คุณสามารถอ่านรายละเอียดการใช้งานคุกกี้แต่ละประเภทและกำหนดการตั้งค่าคุกกี้ ตามที่คุณต้องการได้ตลอดเวลา
ประกาศการใช้งานคุกกี้
×
การตั้งค่าคุกกี้
คุกกี้ที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานเว็บไซต์
Always Active
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานขั้นพื้นฐานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำหน้าเว็บไซต์ที่คุณเข้าใช้งานล่าสุด การสำรวจหน้าเว็บไซต์ การจดจำรหัสของผู้เข้าใช้งาน หรือ ทำให้ผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์เข้าสู่ระบบและสามารถเข้าถึงส่วนของเว็บไซต์ที่ถูกสงวนสิทธิ์ไว้สำหรับสมาชิกเท่านั้น เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องหากไม่มีการเก็บรวบรวมคุกกี้เหล่านี้ การจัดเก็บคุกกี้ประเภทนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องขอความยินยอมจากคุณเพราะคุกกี้ประเภทนี้ไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลซึ่งสามารถระบุตัวตนของคุณได้อย่างเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การจดจำการตั้งค่าภาษา ภูมิภาค ขนาดตัวอักษรของคุณในการใช้งานเว็บไซต์ นับจำนวนและแหล่งที่มาของผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์ เพื่อให้ทราบว่าผู้เข้าชม/ผู้ใช้เว็บไซต์มีการปฏิสัมพันธ์กับหน้าเว็บไซต์อย่างไร และหน้าเว็บไซต์ใดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหรือน้อยที่สุด โดยการเก็บรวบรวมและการรายงานข้อมูลโดยไม่ระบุตัวตนของคุณอย่างไม่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้สามารถพัฒนาและมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้น หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ อาจทำให้ไม่ทราบได้ว่าคุณเคยเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์เมื่อใดและไม่สามารถติดตามประสิทธิภาพการประมวลผลของหน้าเว็บไซต์ได้
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล
คุกกี้ประเภทนี้จะทำให้เว็บไซต์สามารถตอบสนองตามความพึงพอใจของคุณ โดยทำให้เราทราบถึงพฤติกรรมในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการเข้าใช้งานเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น สามารถจดจำการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้สำหรับคุณในครั้งถัดไป ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้เราเข้าใจถึงความสนใจของผู้ใช้ และวัดประสิทธิผลของโฆษณาของเรา คุกกี้ประเภทนี้อาจถูกติดตั้งไว้โดยบริษัทหรือผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม หากคุณไม่อนุญาตให้ใช้คุกกี้ประเภทนี้ การให้บริการบางอย่างของเว็บไซต์อาจไม่สามารถประมวลผลได้อย่างถูกต้อง
คุกกี้สำหรับสื่อสังคมออนไลน์
คุกกี้ประเภทนี้สำหรับฟังก์ชั่นการกดไลค์ แชร์ หรือสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์
คุณยืนยันลบข้อมูลการเก็บคุกกี้ของเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งไม่รวมถึงการจัดเก็บของบุคคลที่สาม เช่น Chrome, Firefox, Internet Explorer, Safari ฯลฯ ที่คุณต้องไปดำเนินการด้วยตนเอง