สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
11/01/2567

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดบวก โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์ เมตา แพลตฟอร์มส์ และอินวิเดีย พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำกว่า 4% เมื่อคืนนี้
  • ผลการสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ได้คาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคในระยะเวลา 1 ปีข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 3.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค.2564 และลดลงจากระดับสูงสุดที่ 7.1% ที่มีการคาดการณ์ในเดือน มิ.ย.2565 ส่วนคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะเวลา 3 ปี ชะลอตัวสู่ระดับ 2.6% ขณะที่คาดการณ์เงินเฟ้อในระยะเวลา 5 ปี อยู่ที่ระดับ 2.5%
  • เฟดสาขาแอตแลนตา เปิดเผย แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.2% ในไตรมาส 4/2566 หลังจากมีการขยายตัว 2.2% 2.1% และ 4.9% ในไตรมาส 1 2 และ 3 ตามลำดับ
  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน อาจเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือน ธ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.1% ในเดือน พ.ย. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน อาจเพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือน ธ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 4.0% ในเดือน พ.ย.
  • ด้านโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐจะรายงานผลกำไรลดลงในไตรมาส 4/2566 หลังจากธนาคารได้กันเงินทุนสำรองเพื่อรับมือกับปัญหาหนี้สูญ ในขณะเดียวกันธนาคารก็ต้องจ่ายเงินให้กับผู้ฝากเงินเพิ่มขึ้น การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่เจพีมอร์แกน เชส แบงก์ ออฟ อเมริกา ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก จะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2566 และผลประกอบการตลอดปีงบการเงิน 2566 ในวันศุกร์นี้ (12 ม.ค.)
  • นักลงทุนรอติดตามข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ (11 ม.ค.) จะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือน ธ.ค. ในเวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย และในวันพรุ่งนี้ (12 ม.ค.) จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือน ธ.ค. ในเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทยเช่นกัน
  • นักลงทุนรอติดตามผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2566 ของธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ (12 ม.ค.) ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน เชส, แบงก์ ออฟ อเมริกา, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ โดยหุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการนำตลาดปรับตัวลง โดยลดลง 1.1% และกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานปรับตัวลง 1.1% ซึ่งเป็นการลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แต่หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยบวก 0.3% และช่วยลดช่วงติดลบของตลาด
  • เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันจุดยืนด้านนโยบายการเงิน โดยระบุว่า เศรษฐกิจยูโรโซนอาจอยู่ในภาวะถดถอยในไตรมาสที่ผ่านมา และแนวโน้มในระยะใกล้ยังคงอ่อนแอ
  • สัปดาห์นี้นักลงทุนรอติดตามการรายงานผลประกอบการในสหรัฐและยุโรป ซึ่งจะช่วยประเมินผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงที่มีต่อผลกำไร และอาจกำหนดทิศทางตลาดในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
  • ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดบวก นำโดยหุ้นกลุ่มส่งออกที่ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยนเทียบดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นิกเกอิปิดแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 34 ปีเป็นวันที่สอง นับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2533 ซึ่งเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นเผชิญภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบ โดยบรรยากาศการซื้อขายถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนและไต้หวัน ก่อนที่การเลือกตั้งของไต้หวันจะมีขึ้นในวันที่ 13 ม.ค.นี้ ประกอบกับนักลงทุนรอติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) รวมทั้งข้อมูลการค้าของจีนในวันศุกร์นี้ (12 ม.ค.) เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของจีน
  • ตลาดหุ้นไทยปิดลบโดยแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ทั้งในแดนบวกและลบ ปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ ในขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคต่างปิดปรับตัวลดลงเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของเฟด ส่งผลให้อัตราผตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น
  • สภาธุรกิจตลาดทุนไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนของไทยในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวขึ้น 38.9% จากเดือนก่อนหน้าในเดือน ธ.ค. เข้าสู่เกณฑ์ร้อนแรง โดยได้แรงหนุนหลักจากความคาดหวังต่อเงินทุนไหลเข้า ตามด้วยการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

ตลาดขาดปัจจัยชี้นำใหม่ๆ โดยรอติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ ที่จะประกาศในวันนี้ (11 ม.ค.) เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ระยะสั้นคาดว่าสินทรัพย์เสี่ยงจะยังถูกขับเคลื่อนโดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำหาโอกาสลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive ที่ราคายังอยู่ในโซนถูก ทั้งนี้ หากรับความเสี่ยงได้ไม่มาก แนะนำลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกในจังหวะที่อัตราผลตอบแทน (bond yield) ปรับสูงขึ้น เพื่อคาดหวังผลตอบแทนที่ดีจากดอกเบี้ย และส่วนต่างราคา (capital gain) ในอนาคต หากเฟดปรับลดดอกเบี้ยลง

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,695.73 จุด เพิ่มขึ้น 170.57 จุด หรือ +0.45%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,783.45 จุด เพิ่มขึ้น 26.95 จุด หรือ +0.57% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,969.65 จุด เพิ่มขึ้น 111.94 จุด หรือ +0.75%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 476.42 จุด ลดลง 0.84 จุด หรือ -0.18%
    • ดัชนีนิกเกอิปิดที่ระดับ 34,441.72 จุด พุ่งขึ้น 678.54 จุด หรือ +2.01%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ระดับ 2,877.70 จุด ลดลง 15.55 จุด หรือ -0.54%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 87 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 71.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 5.20 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ 2,027.80 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,413.52 ลบ 1.41 จุด (-010%) Trading Volume: 45,490.34 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มธนาคาร (-1.95%) และกลุ่มพลังงาน (+0.57%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,827.92 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับลดลง 1-5 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับลดลง 1-4 bps
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับลดลง 2-5 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลดลง 2-5 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับลดลง 1-4 bps  
    • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 9,233.19 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 14,361.18 ล้านบาท   
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน