สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
08/01/2567

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (5 ม.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเหนือระดับ 4% หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรนั้นสอดคล้องกับตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนที่สูงกว่าคาด และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่งในเดือน ธ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 170,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้นจากระดับ 173,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ย. ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.7% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.8%
  • นักลงทุนลดน้ำหนักสำหรับการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือน มี.ค. 2567 หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่สูงกว่าคาด ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 53.8% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19 - 20 มี.ค. 2567 หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้น้ำหนักมากถึง 72.8%
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายโทมัส บาร์กิน ประธานเฟด สาขาริชมอนด์ ที่ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้เงินเฟ้อจะชะลอตัวลง แต่ยังคงมีความเสี่ยงที่ว่าภารกิจของเฟดในการสกัดเงินเฟ้ออาจจะยังไม่สิ้นสุด โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งสะท้อนถึงการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนั้น ปิดตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ระดับ 4.05%
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันศุกร์ (5 ม.ค.) และปรับตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกในรอบ 8 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจทั่วโลกที่เป็นไปอย่างไร้ทิศทาง
  • ตลาดถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกของเยอรมนีที่ลดลงเกินคาดในเดือน พ.ย. ขณะที่เงินเฟ้อของยูโรโซนที่พุ่งขึ้นตามคาดในเดือน ธ.ค. นั้นสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงต่อไป นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือน ธ.ค. และภาคบริการของสหรัฐชะลอตัวลงอย่างมากในเดือน ธ.ค.
  • ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดบวกในวันศุกร์ (5 ม.ค.) ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มส่งออกที่ปรับตัวขึ้นหลังเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางแนวโน้มที่ลดลงเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาด
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นสู่ 51.5 ในเดือน ธ.ค. จาก 50.8 ในเดือน พ.ย. และบ่งชี้ถึงการเติบโตของกิจกรรมในภาคบริการเป็นเดือนที่ 16 ติดต่อกัน
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบในวันศุกร์ (5 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวอย่างยากลำบากหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสัญญาณบ่งชี้ว่าจีนกำลังเผชิญภาวะเงินฝืด ด้านโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า หลังจากมีข่าวว่าธนาคารรายใหญ่ของจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน ก็มีความเป็นไปได้ว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในไตรมาส 1 และไตรมาส 3 ปีนี้
  • ตลาดหุ้นไทยปิดลบในวันศุกร์ (5 ม.ค.) โดยมีแรงซื้อขายในแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน ปิดปรับตัวลดลง ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคมีทั้งปิดบวกและลบ
  • อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยลดลง 0.83% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน ธ.ค. หลังจากลดลง 0.44% ในเดือน พ.ย. และเทียบกับที่ตลาดคาดว่าอาจลดลง 0.3% โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายของ ธปท. ที่ 1 – 3% เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน   

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

สัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร และตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนต่างก็ออกมาสูงกว่าคาด ประกอบกับตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่รายงานออกมาต่ำกว่าคาดเช่นกัน สะท้อนว่าตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง ส่งผลให้คาดว่าดอกเบี้ยน่าจะยังอยู่ระดับสูงอีกสักระยะ เห็นได้จากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐกลับมายืนเหนือระดับ 4% อีกครั้ง สินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะหุ้นเติบโตที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะมีแรงเทขายทำกำไรระยะสั้น หลังราคาปรับขึ้นมามากในช่วงที่ผ่านมา แนะนำหาโอกาสลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive ที่ราคายังอยู่ในโซนถูก ทั้งนี้ หากนักลงทุนรับความเสี่ยงได้ไม่มาก แนะนำลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกในจังหวะที่อัตราผลตอบแทน (bond yield) ปรับสูงขึ้น เพื่อคาดหวังผลตอบแทนที่ดีจากดอกเบี้ย และส่วนต่างราคา (capital gain) ในอนาคต หากเฟดปรับลดดอกเบี้ยลง

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 37,466.11 จุด เพิ่มขึ้น 25.77 จุด หรือ +0.07%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,697.24 จุด เพิ่มขึ้น 8.56 จุด หรือ +0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,524.07 จุด เพิ่มขึ้น 13.77 จุด หรือ +0.0.09%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 476.38 จุด ลดลง 1.30 จุด หรือ -0.27%
    • ดัชนีนิกเกอิ ปิดที่ 33,377.42 จุด เพิ่มขึ้น 89.13 จุด หรือ +0.27%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปิดที่ 2,929.18 จุด ลดลง 25.17 จุด หรือ -0.85%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ. พุ่งขึ้น 1.62 ดอลลาร์ หรือ 2.24% ปิดที่ 73.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 2,049.80 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,427.96 ลบ 6.63 จุด (-0.46%) Trading Volume: 51,149.51 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายปานกลาง โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (-0.62%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (+0.94%) กลุ่มขนส่ง (-0.87%) กลุ่มไอซีที (-0.51%) และกลุ่มพาณิชย์ (-0.10%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,096.17 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1-5 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1 bp
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1-5 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 1-5 bps
      • IRS SWAP ปิดแกว่งตัว 1-10 bps   
    • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,422.80 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 355.76 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน