Flash Update


ผลประกอบการไตรมาส 3/2566: Microsoft, Meta, Alphabet และ Amazon

27/10/2566

สรุปสถานการณ์
  • รายได้ Microsoft เติบโตสูงที่สุดในรอบ 6 ไตรมาส ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของ Cloud
  • รายได้และกำไร Meta สูงกว่าคาด หนุนจากรายได้โฆษณาฟื้นตัว
  • รายได้ Alphabet +11% YoY ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของโฆษณา แต่รายได้จากธุรกิจ Cloud ต่ำกว่าคาด
  • รายได้ Amazon เติบโต 13% สูงกว่าคาด หนุนจากรายได้ Cloud เติบโตต่อเนื่อง

Microsoft หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลก
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก: KFCLIMA-A, KFCYBER-A, KFGBRAND-A, KFGTECH-A, KFHTECH-A, KFESG-A และ KFUSINDX-A
  • Microsoft บริษัทผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์ ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปีงบการเงิน 2024 ที่สิ้นสุด ณ 30 ก.ย. 2023 รายได้อยู่ที่ 56,517 ล้านดอลลาร์ +13% YoY สูงกว่าคาดที่ 54,540 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Earning อยู่ที่ 2.99 ดอลลาร์ สูงกว่าคาดที่ 2.65 ดอลลาร์ ซึ่ง Microsoft ได้มีการควบคุมค่าใช้จ่ายส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโต 27% YoY
    • รายได้ส่วน Productivity & Business Process +13%
    • รายได้ส่วน Intelligent Cloud +19% ได้แรงหนุนจากรายได้ Azure cloud-services ที่เพิ่มขึ้น 29% จาก 26% ในไตรมาสก่อนหน้า โดยมีลูกค้าที่ใช้บริการ Azure OpenAI เพิ่มขึ้น 18,000 ราย จาก 11,000 รายในไตรมาสก่อนหน้า
    • รายได้ส่วน Personal Computing +3% ได้แรงหนุนจากรายได้ OEM ที่ดีกว่าคาด และเริ่มเห็นการฟื้นตัวของตลาด PC ส่งผลให้รายได้ส่วนนี้พลิกกลับมาเติบโตเป็นบวกหลังจากหดตัวมาหลายไตรมาส
  • Microsoft คาดการณ์รายได้ไตรมาสปัจจุบันจะอยู่ที่ 60,400 – 61,400 ล้านดอลลาร์ เติบโต 15% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 58,719 ล้านดอลลาร์
  • ราคาหุ้น After hours ของ Microsoft +4% จากรายได้และกำไรสูงกว่าคาด รวมไปถึงคาดการณ์รายได้ที่เติบโตดี

Meta บริษัทแม่ของ Facebook Messenger Instagram และ WhatsApp
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก: KFGMIL-A KFHTECH-A และ KFUSINDX-A
  • Meta ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 รายได้อยู่ที่ 34,146 ล้านดอลลาร์ +23% YoY เติบโตที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 และสูงกว่าคาดที่ 33,500 ล้านดอลลาร์ หนุนจากรายได้โฆษณาที่กลับมาฟื้นตัวสูง
  • การลดต้นทุนได้ช่วยเพิ่มอัตรากำไรจากการดำเนินงานเป็น 40% เทียบกับ 20% ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ Earning อยู่ที่ 4.39 ดอลลาร์ สูงกว่าคาดที่ 3.6 ดอลลาร์ และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ 1.64 ดอลลาร์
  • Meta มีจำนวนผู้ใช้งานที่ Active ผ่านแพลตฟอร์มมากขึ้น
    • Daily Active User อยู่ที่ 2,085 ล้านราย +5% YoY
    • Monthly Active User อยู่ที่ 3,049 ล้านราย +3% YoY
    • Average Revenue per User อยู่ที่ 11.23 ดอลลาร์ สูงกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่ 10.63 ดอลลาร์ และสูงกว่าไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนหน้าที่ 9.41 ดอลลาร์
  • Meta คาดการณ์รายได้ไตรมาสปัจจุบันจะอยู่ที่ 36,500 – 40,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 38,740 ล้านดอลลาร์ สำหรับแนวโน้มรายได้ในปี 2024 บริษัทคาดว่าจะผันผวนไปตามภาวะเศรษฐกิจ
  • Meta ได้ลดคาดการณ์การใช้จ่ายในปี 2023 ลงเหลือ 87,000 – 89,000 ล้านดอลลาร์ แต่คาดว่าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นในปี 2024 ราว 94,000 – 99,000 ล้านดอลลาร์ โดยเน้นการลงทุนจำนวนมากไปกับโครงสร้างพื้นฐานของ AI นำเทคโนโลยีมาใช้แนะนำเนื้อหาและโฆษณาที่เหมาะกับความสนใจของผู้ใช้งานแต่ละคน เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจหลักอย่างโฆษณายังคงเติบโต นอกจากนี้ ยังคงลงทุนใน Virtual Reality อย่างต่อเนื่อง

Alphabet (Google) บริษัทโฮลดิ้งเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกัน
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก: KFGMIL-A KFHTECH-A และ KFUSINDX-A
  • Alphabet บริษัทแม่ของ Google ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 รายได้หลังหักการจ่ายเงินให้คู่ค้าอยู่ที่ 64,051 ล้านดอลลาร์ +11% YoY เติบโตสูงเป็น double-digit ในรอบกว่า 1 ปี และมีรายได้สูงกว่าคาดที่ 63,044 ล้านดอลลาร์ ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของโฆษณา ขณะที่ Earning อยู่ที่ 1.55 ดอลลาร์ สูงกว่าคาดที่ 1.45 ดอลลาร์
    • รายได้จาก Google Search อยู่ที่ 44,026 ล้านดอลลาร์ +11.3% YoY และสูงกว่าคาดที่ 43,200 ล้านดอลลาร์
    • รายได้จากโฆษณา YouTube อยู่ที่ 7,952 ล้านดอลลาร์ +12.5% YoY และสูงกว่าคาดที่ 7,800 ล้านดอลลาร์
    • รายได้จาก Google Cloud อยู่ที่ 8,411 ล้านดอลลาร์ +22.5% YoY และพลิกกลับมามีกำไรจากการดำเนินงาน 266 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่ขาดทุน 440 ล้านดอลลาร์ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม กำไรจากการดำเนินงานที่ 266 ล้านดอลลาร์ ยังคงต่ำกว่าคาดที่ 434 ล้านดอลลาร์
  • แม้ว่า Alphabet จะมีผลรายได้และกำไรที่สูงกว่าคาด แต่รายได้จากธุรกิจ Cloud ท่ีตลาดมองว่าเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตให้กับบริษัทมีกำไรต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ราคาหุ้น After hours -6%

Amazon บริษัท E-Commerce รายใหญ่ของโลก
Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก: KFGG-A, KFGMIL-A, KFGTECH-A, KFUS-A และ KFUSINDX-A
  • Amazon ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 รายได้อยู่ที่ 143,100 ล้านดอลลาร์ +13% YoY และสูงกว่าคาดที่ 141,600 ล้านดอลลาร์ หนุนจากรายได้ Cloud หรือ AWS ที่เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญของบริษัท รวมไปถึงรายได้จาก E-Commerce และโฆษณาเติบโตสูง ในส่วนของ Earning อยู่ที่ 0.83 ดอลลาร์ สูงกว่าคาดที่ 0.58 ดอลลาร์
    • รายได้จาก E-Commerce อยู่ที่ 57,267 ล้านดอลลาร์ +7% YoY
    • รายได้จาก Third-party Seller อยู่ที่ 34,342 ล้านดอลลาร์ +20% YoY
    • รายได้จาก Amazon Web Services (AWS) อยู่ที่ 23,059 ล้านดอลลาร์ +12% YoY
    • รายได้จาก Subscription อยู่ที่ 10,170 ล้านดอลลาร์ +14% YoY
    • รายได้จากโฆษณาอยู่ที่ 12,060 ล้านดอลลาร์ +26% YoY
    • รายได้จาก Physical Stores อยู่ที่ 4,959 ล้านดอลลาร์ +6% YoY
    • รายได้อื่นๆ อยู่ที่ 1,226 ล้านดอลลาร์ -3% YoY
  • CEO ของ Amazon ระบุว่าความต้องการด้าน Generative AI มีแนวโน้มที่จะหนุนรายได้ส่วน AWS เพิ่มขึ้นในอนาคต หลังมีลูกค้าจำนวนมากหันมาใช้งาน Cloud บน Amazon server
  • Amazon ได้ให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุน โดยการใช้จ่ายด้านการขายและการตลาดลดลงจากปีก่อนหน้า เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2015 ที่การเติบโตของการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงเงินเดือนของวิศวกรซอฟต์แวร์และต้นทุนสำหรับ server AWS เพิ่มขึ้นเพียง 8.8% หรือประมาณ 1 ใน 4 ของค่าใช้จ่ายปีที่แล้ว
  • Amazon คาดการณ์ไตรมาส 4 จะมีรายได้ 160,000 –167,000 ล้านดอลลาร์ เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ราว 166,600 ล้านดอลลาร์ ขณะที่คาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 7,000 -11,000 ล้านดอลลาร์ เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ราว 8,710 ล้านดอลลาร์
*หมายเหตุ: ข้อมูล Top 10 Holdings ของกองทุนหลัก ณ 30 ก.ย. 66 และที่มาข้อมูลบริษัทต่างๆ ดังนี้
  • Microsoft: Bloomberg, CNBC, Company website | รายได้ประกาศ 24 ต.ค. 66 | อัปเดต ณ 25 ต.ค. 66
  • Meta: Bloomberg, Company website | รายได้ประกาศ 25 ต.ค. 66 | อัปเดต ณ 26 ต.ค. 66
  • Alphabet: Bloomberg, CNBC, Company website | รายได้ประกาศ 24 ต.ค. 66 | อัปเดต ณ 25 ต.ค. 66
  • Amazon: Bloomberg, Company website | รายได้ประกาศ 26 ต.ค. 66 | อัปเดต ณ 27 ต.ค. 66 
 

ข้อมูลกองทุนกรุงศรี คลิก

นโยบายการลงทุนและคำเตือน

  • KFCLIMA-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ DWS Invest ESG Climate Tech, Class USD TFC (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 6 – เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ (โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย ≥ 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ)
  • KFCYBER-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ Allianz Global Investors Fund - Allianz Cyber Security, Class RT (USD) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 6 - เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย ≥ 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ) | กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนทั่วโลกของบริษัทที่ประกอบธุรกิจหรือได้รับประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) | กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม Software จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
  • KFESG-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ AB Sustainable Global Thematic Portfolio, Class S1 USD (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 6 – เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย ≥ 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ)
  • KFGBRAND-A และ KFGBRAND-D ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ Morgan Stanley Investment Funds - Global Brands Fund (Class Z) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 6 – เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ (โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย ≥ 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ)
  • KFGG-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund, Class B USD Acc (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 6 – เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย ≥ 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ)
  • KFGMIL-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ Goldman Sachs Global Millennials Equity Portfolio, Class I Shares (Acc.) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 6 – เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน | กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกที่ได้รับประโยชน์จากพฤติกรรมการบริโภคของประชากรกลุ่ม Millennials ที่เกิดในระหว่างปี พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2542
  • KFGTECH-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ T. Rowe Price Funds SICAV – Global Technology Equity Fund (Class Q) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 7 – เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ | กองทุนลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก l ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน
  • KFHTECH-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ BGF World Technology Fund (Class D2 USD) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 7 – เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน | กองทุนลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก | ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน
  • KFUS-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ Baillie Gifford Worldwide US Equity Growth Fund, Class B Acc (USD) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV | ระดับความเสี่ยง 6 – เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ เป็นกองทุนที่ลงทุนกระจุกตัวในประเทศ หรือกลุ่มประเทศที่กองทุนลงทุน ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย
  • KFUSINDX-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ iShares Core S&P 500 ETF (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี S&P 500 Index | ระดับความเสี่ยง 6 - เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

สามารถขอรับข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.กรุงศรี โทร. 02-657-5757
หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตัวแทนสนับสนุนการขาย/ เจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน

หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอดูหนังสือชี้ชวน โปรดติดต่อ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรีจำกัด โทร 0 2657 5757 หรืออีเมล krungsriasset.clientservice@krungsri.com
เอกสารประกอบเปิดด้วยโปรแกรม Acrobat Reader หากท่านไม่มีโปรแกรมดังกล่าว คลิกเพื่อ ดาวน์โหลด โปรแกรม (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

ย้อนกลับ

ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน