สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
27/12/2566

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดบวก โดยในระหว่างวัน ดัชนี S&P500 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2565 ขานรับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 72.7% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. 2567
  • ปีเตอร์ คาร์ดิลโล นักวิเคราะห์จากบริษัท Spartan Capital Securities กล่าวว่า ตลาดยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ต่ำกว่าคาดเมื่อวันศุกร์ (22 ธ.ค.) ที่ผ่านมา โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ และหากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงชะลอตัวลงในเดือน ม.ค. และ ก.พ. 2567 ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้
  • ตลาดได้แรงหนุนจากราคาบ้านในสหรัฐที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เผชิญภาวะถดถอย แต่จะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิ้ง โดยเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 4.8% ในเดือน ต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในปีนี้ จากระดับ 4.0% ในเดือน ก.ย.
  • ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดบวก ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง โดยได้อานิสงส์จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ด้วยความหวังว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะกลับมาเปิดบวกอีกครั้ง หลังจากที่หยุดพักการซื้อขายเนื่องในวันคริสต์มาสเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่ผ่านมา
  • นับตั้งแต่ต้นปี 2566 ดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้นกว่า 20% ซึ่งทำผลงานดีที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย โดยดัชนีหุ้นกลุ่มผลิตรถยนต์และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ทะยานขึ้นอย่างน้อย 33% โดยได้ปัจจัยบวกจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักทุกสกุล หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณว่าจะไม่เร่งรีบในการถอนนโยบายผ่อนคลายการเงินแบบพิเศษ (ultra-loose monetary policy)
  • นายมาซาชิ อาคัตสึ นักวิเคราะห์ของบีโอเอฟเอ ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า แม้ว่าเงินเยนดีดตัวขึ้นในช่วงต้นเดือน พ.ย. แต่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงรักษาความแข็งแกร่งเอาไว้ได้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ค่าเงินเยนยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง
  • รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยวานนี้ (26 ธ.ค.) ว่า อัตราว่างงานเดือน พ.ย. ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2.5% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ ต่างก็ร่วงลง 2% และเป็นปัจจัยฉุดตลาด อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นจีนลดช่วงลบหลังจากบริษัทเกมออนไลน์อย่างน้อย 8 แห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทเพอร์เฟค เวิลด์ ประกาศแผนซื้อหุ้นคืน โดยมีเป้าหมายที่จะกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน หลังจากรัฐบาลจีนประกาศแผนควบคุมธุรกิจเกมออนไลน์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • ตลาดหุ้นไทยปิดบวก แกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยซื้อขายในแดนบวกเกือบตลอดทั้งวัน ปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคที่เปิดทำการในวันนี้มีทั้งปิดบวกและลบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

ในสัปดาห์สุดท้ายของปี คาดว่าสินทรัพย์เสี่ยงยังมีโอกาสปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังได้ปัจจัยหนุนจากเฟดส่งสัญญาณยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้า ประกอบกับตลาดจับตาปรากฎการณ์ ซานต้า แรลลี่ ซึ่งมักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่ แนะนำลงทุนเมื่อราคาปรับย่อลงมาเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลดหย่อนภาษี พิจารณาลงทุนตามความเสี่ยงที่สามารถรับได้

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,545.33 จุด เพิ่มขึ้น 159.36 จุด หรือ +0.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,774.75 จุด เพิ่มขึ้น 20.12 จุด หรือ +0.42% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,074.57 จุด เพิ่มขึ้น 81.60 จุด หรือ +0.54%
    • ตลาดหุ้นยุโรป ปิดทำการวานนี้ เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส
    • ดัชนีนิกเกอิปิดที่ 33,305.85 จุด เพิ่มขึ้น 51.82 จุด หรือ +0.16%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 2,898.88 จุด ลดลง 19.93 จุด หรือ -0.68%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 2.01 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 75.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 2,069.80 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,413.45 บวก 4.62 จุด (+0.33%) Trading Volume: 33,948.24 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (+0.10%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (+0.62%) และกลุ่มไอซีที (-0.16%)  นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 293.62 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับลดลง 1 bp แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับลดลง 1 bp
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับลดลง 1 bp
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลดลง 1 bp
      • IRS SWAP ปิดแกว่งตัว 1 bp  
    • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 33,737.72 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 5,317.87 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน