สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
11/03/2567

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวลดลงในวันที่ 8 มี.ค. โดยดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลดลงหลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระหว่างวัน โดยหุ้นกลุ่มชิปปรับตัวลงท่ามกลางแรงเทขายทำกำไร ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานบ่งชี้ว่าการจ้างงานใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาด
  • ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดฟิลาเดลเฟียปิดร่วงลง 4% หลังแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวัน และหุ้นอินวิเดีย บริษัทผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ปิดร่วงลง 5.6% หลังจากพุ่งขึ้นมากกว่า 5% ในการซื้อขายช่วงเช้า และหลังจากปิดบวกต่อเนื่องนาน 6 วัน เป็นปัจจัยสำคัญที่ถ่วงตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบ
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด 275,000 ตำแหน่งในเดือน ก.พ. มากกว่าที่มีการคาดกันไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง
  • อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นแตะ 3.9% ในเดือน ก.พ. หลังจากทรงตัวที่ระดับ 3.7% เป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกัน ขณะที่อัตราการขยายตัวของค่าแรงชะลอลงเหลือ 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน
  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณวงเงิน 4.60 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งทำให้รัฐบาลสามารถหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ โดยงบประมาณจากร่างกฎหมายที่ได้รับการลงนามนี้จะสามารถใช้ได้ในส่วนงานหลักๆ ได้แก่ กองทัพและทหารผ่านศึก กิจการต่างประเทศ เกษตรกรรม พาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงคมนาคม การพัฒนาเมืองและการเคหะ และพลังงาน
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัวในวันที่ 8 มี.ค. แต่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในรอบสัปดาห์ เนื่องจากตลาดหุ้นเยอรมนีและตลาดหุ้นฝรั่งเศสแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มนโยบายการเงินทั่วโลก
  • เศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาส 4/66 ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า และโต 0.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังจากในไตรมาส 3/66 หดตัว 0.1% จากไตรมาสก่อนหน้า และขยายตัว 0.1% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า
  • เยอรมนีเปิดเผยข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ม.ค. ของเยอรมนีที่สูงเกินคาด ซึ่งเพิ่มความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในที่สุด และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ม.ค. ของเยอรมนีลดลงน้อยกว่าคาด
  • ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) สนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน มิ.ย. และบางรายสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในเดือน ก.ค.
  • การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นลดลง 6.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน ม.ค. โดยเป็นการลดลงเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน และลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2564 ตามการลดลงของการใช้จ่ายด้านอาหาร น้ำมัน และค่าสาธารณูปโภค
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกในวันที่ 8 มี.ค. สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แม้ว่ายังไม่มีกรอบเวลาชัดเจนสำหรับการดำเนินการดังกล่าวก็ตาม
  • ตลาดหุ้นไทยวันที่ 8 มี.ค. ซื้อขายในแดนบวกตลอดทั้งวัน ปิดปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง ทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาคและตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นในวันก่อนหน้า เนื่องจากนักลงทุนมีความคาดหวังมากขึ้นต่อการลดดอกเบี้ยของเฟดและธนาคารกลางยุโรป 

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

เป็นเรื่องปกติที่ตลาดหุ้นสหรัฐจะมีแรงขายทำกำไรและปิดปรับตัวลดลง หลังจากก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นสร้างสถิติปิดปรับตัวสูงสุดมาตลอด สำหรับนักลงทุนในระยะสั้นควรพิจารณาซื้อขายตัดสินใจอย่างรวดเร็วในช่วงเวลานี้ แต่สำหรับนักลงทุนในระยะยาว สามารถถือกองทุนหุ้นสหรัฐหรือหุ้นทั่วโลกตามเป้าหมายที่สูงขึ้นในระยะยาว

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,722.69 จุด ลดลง 68.66 จุด หรือ -0.18%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,123.69 จุด ลดลง 33.67 จุดหรือ -0.65% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 16,085.11 จุด ลดลง 188.26 จุด หรือ -1.16%
    • รอบสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.93%, ดัชนี S&P500 ติดลบ 0.26% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 1.17%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 503.26 จุด เพิ่มขึ้น 0.10 จุด หรือ +0.02%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดที่ระดับ 3,046.02 จุด เพิ่มขึ้น 18.62 จุด หรือ +0.61%
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 20.30 ดอลลาร์ หรือ 0.94% ปิดที่ 2,185.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้น 4.52% ในรอบสัปดาห์
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 92 เซนต์ หรือ 1.17% ปิดที่ 78.01 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวลง 2.5% ในรอบสัปดาห์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,386.42 บวก 14.26 จุด (+1.04%) Trading Volume: 40,077.08 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (+1.03%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (+0.66%) และกลุ่มขนส่ง (+1.68%) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,610.21 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับลดลง 1-2 bp แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับลดลง 1 bp
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับลดลง 1-2 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลดลง 1-2 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับลดลง 1 bp 
    • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 6,526.23 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,071.04 ล้านบาท   
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน