บลจ.กรุงศรีเสนอขายกองทุน KF-HSMUS ชูศักยภาพการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กของสหรัฐ

27 มิถุนายน 2560
มิถุนายน 2560 – จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวและปรับไปในทิศทางที่ดีขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา ล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ. กรุงศรี) ได้คัดสรรกองทุนต่างประเทศชั้นนำ Schroders International Selection Fund – US Small & Mid Cap Equity กองทุนที่เชี่ยวชาญการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กในตลาดสหรัฐที่มีโอกาสเติบโตสูง เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่สำหรับนักลงทุน

เมื่อเร็วๆ นี้ ที่งาน Citigold Half Year Investment Outlook บลจ.กรุงศรีได้เชิญ Mr. Frederick Schaeter Client Portfolio Manager จากกองทุน Schroders ISF US Small & Mid Cap Equity Fund มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุน พร้อมด้วยนายเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก บลจ.กรุงศรี มาให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุนเปิดกรุงศรียูเอสสมอล-มิดแคปอิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ (KF-HSMUS) ที่กำลังเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 21-28 มิ.ย. 2560 นี้  
นายเฟรดเดอริก กล่าวว่า จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น อัตราการจ้างงานเริ่มมีเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนบริษัทมีตัวเลขรายได้ที่แข็งแกร่งต่อเนื่องและปัจจัยหลักที่จะสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ คือ นโยบายการลดภาษีนิติบุคคลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายฝ่ายเชื่อว่ามีความเป็นไปได้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนและจะส่งผลให้บริษัทขนาดกลางและเล็กที่ต้องเสียภาษีนิติบุคคลในระดับที่สูงมากกว่า 30% เป็นผู้ได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบายดังกล่าว นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ แต่เศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มฟื้นตัวทำให้บริษัทขนาดกลางและเล็กจะได้ประโยชน์เป็นอย่างมากเนื่องจากรายได้มากกว่า 80% ของบริษัทเหล่านี้มาจากรายได้ภายในประเทศ 
แม้ว่าขณะนี้ตลาดหุ้นสหรัฐมีราคาค่อนข้างสูงแล้ว แต่ด้วยตัวเลข GDP ที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตในอัตราที่ 2 – 2.5% และแนวโน้มการบริโภคภายในประเทศที่เริ่มสูงขึ้น จึงนับว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น และยังมีโอกาสอีกมากสำหรับการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กเพราะสามารถเติบโตได้ดีในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ และขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูลหุ้นขนาดใหญ่ แต่ในตลาดมียังหุ้นขนาดกลางและเล็กที่มีคุณภาพดี มีศักยภาพอีกจำนวนมากที่ตลาดยังไม่ค้นพบ และมีหุ้นดีๆ อีกหลายตัวยังถูกประเมินราคาต่ำกว่าความเป็นจริง กองทุนจึงเน้นเฟ้นหาหุ้นดังกล่าวเพื่อที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ ราคาซื้อขายของหุ้นขนาดกลางและเล็กยังไม่สูงเกินไปนัก ทั้งยังมีความน่าสนใจคือ ความสามารถในการทำกำไรสูงกว่าหุ้นขนาดใหญ่ มีอัตราการเติบโตสูงกว่า การดำเนินงานมีประสิทธิภาพดีกว่า แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่เห็นโอกาสนี้มากนัก
แหล่งข้อมูล: Starts In 1979, Based On Price Returns, CS US Equity Strategy, the BLOOMBERG PROFESSIONAL ™ service, S&P Capital IQ/ClariFi
 
สำหรับกองทุน Schroders ISF US Small & Mid Cap Equity นี้ เป็นกองทุนที่จัดตั้งมานานมากกว่าสิบปี มีผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ยาวนานถึง 37 ปี พร้อมด้วยทีมนักวิเคราะห์ที่มีความเชี่ยวชาญในการคัดสรรหุ้นขนาดกลางและเล็ก กองทุนมีประวัติผลการดำเนินงานย้อนหลังที่โดดเด่นเทียบกับดัชนี Russell 2500 ซึ่งเป็นดัชนีของตลาดหุ้นขนาดเล็กโดยผลตอบแทนเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2548–2559 สามารถทำผลงานได้เฉลี่ย 10.9% ต่อปี ดีกว่าดัชนีชี้วัดของตลาดเมื่อเทียบกับ Russell 2500 ที่ทำได้ 8.4% และ S&P500 ที่ทำได้ 7.5%

แหล่งข้อมูล: Schroders, Morningstar, ข้อมูลตั้งแต่ ม.ค. 2548 ถึง 31 ธ.ค. 2559. ข้อมูลในข้างต้นอ้างอิงจาก Schroder Small and Mid Cap Strategy โดยเป็นผลการดำเนินงานก่อนหักค่าธรรมเนียมในรูปเงินสกุล USD
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน 
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงราคา/ ผลตอบแทนในอนาคต
 
ทั้งนี้ ปัจจัยความสำเร็จของกองทุนมาจากกลยุทธ์การลงทุนที่แตกต่างที่สามารถช่วยลดความผันผวนของตลาดได้เป็นอย่างดี โดยกองทุนจะมีการกระจายการลงทุนในหลักทรัพย์ 3 ประเภท ได้แก่ หุ้นที่มีอัตราการเติบโตที่สูง แต่มีราคาที่ยังอยู่ในระดับต่ำ (mispriced) ซึ่งกองทุนให้น้ำหนักการลงทุนอยู่ที่ 50-70% หุ้นที่มีอัตราการเติบโตและความสามารถในการทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องมีรายได้มั่นคงเชื่อถือได้ (steady eddies) มีน้ำหนักการลงทุนที่ 20-50%เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดและหุ้นฟื้นตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก (turnaround) ซึ่งมีน้ำหนักการลงทุนอยู่ที่ 0-20% ของพอร์ต โดยกองทุนมีการกระจายไปในหลายภาคอุตสาหกรรม เช่นภาคการเงิน กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มบริการด้านสุขภาพทั้งนี้กองทุนมีนโยบายการลงทุนแบบเชิงรุก เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดและเพื่อรักษาผลตอบแทนจากการดำเนินงานให้สูงกว่าตลาดอย่างสม่ำเสมอ

ด้านนายเกียรติศักดิ์ จากบลจ. กรุงศรี กล่าวว่า ผู้สนใจลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กของสหรัฐ สามารถเลือกลงทุนในกองทุน KF-HSMUS ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 21-28 มิ.ย. นี้ โดยกองทุนมีความเสี่ยงในระดับ 6 แต่กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงเรื่องของค่าเงินไม่น้อยกว่า 90% ทั้งนี้ กองทุนไม่มีนโยบายไม่จ่ายเงินปันผลเพื่อนำเงินกลับไปลงทุนเพื่อรักษาผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง และสำหรับช่วงเสนอขายนี้ มีโปรโมชั่น ทุกๆ 100,000 บาท นักลงทุนจะได้รับเงินลงทุนคืนในกองทุน KFHSMUS มูลค่า100 บาท นักลงทุนที่สนใจสามารถซื้อผ่าน บลจ. กรุงศรีได้ทุกวันทำการ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ 
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
โทร 0 2657 5757 | อีเมล: krungsriasset.mktg@krungsri.com | เว็บไซต์: www.krungsriasset.com
หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จากัด (มหาชน) /ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน

คำเตือน
1. ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดาเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนาเพิ่มเติมก่อนทาการลงทุน
2. เอกสารฉบับนี้จัดทาขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล    แต่บริษัทฯมิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิเปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
3. กองทุนเปิดกรุงศรียูเอสสมอล-มิดแคปอิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ (KF-HSMUS) มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ กองทุน Schroder International Selection Fund - US Small & Mid Cap Equity (Class X, Acc) ซึ่งมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางในประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนั้น กองทุนอาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และ/หรือการเมืองในประเทศซึ่งกองทุนหลักได้ลงทุน
4. กองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ ขณะใดขณะหนึ่งโดยไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งอาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมฯ โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
5. กองทุนไทยและ/หรือกองทุนหลักอาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน ทำให้กองทุนไทยและ/หรือกองทุนหลัก อาจมีความเสี่ยงมากกว่ากองทุนรวมทั่วไป จึงเหมาะสมกับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงและรับความเสี่ยงได้สูงกว่าผู้ลงทุนทั่วไป ผู้ลงทุนควรลงทุนในกองทุนรวมเมื่อมีความเข้าใจในความเสี่ยงของสัญญาฯ โดยคำนึงถึงประสบการณ์การลงทุน วัตถุประสงค์การลงทุนและฐานะการเงินของผู้ลงทุนเอง
6. บริษัทจัดการกองทุนอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) สำนักงาน ก.ล.ต. เป็นผู้อนุมัติการจัดตั้ง กองทุนเปิดกรุงศรียูเอสสมอล-มิดแคปอิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ (KF-HSMUS) แต่ไม่ได้รับผิดชอบในการบริหารกองทุนและไม่ได้รับประกันราคาหน่วยลงทุนของกองทุน

เอกสารประกอบเปิดด้วยโปรแกรม Acrobat Reader หากท่านไม่มีโปรแกรมดังกล่าว คลิกเพื่อ ดาวน์โหลด โปรแกรม (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

ย้อนกลับ

ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน