สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
29/03/2567

ปัจจัยสำคัญ

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวผสมผสาน โดยที่ Dow Jones และ S&P500 ปิดบวก ในขณะที่ Nasdaq ปิดลบ ทั้งนี้ S&P500 ได้ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All Time High) ครั้งที่ 22 ในปีนี้ และทำสถิติในไตรมาสที่ 1 ที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 5 ปี แรงหนุนมาจากความคาดหวังที่เศรษฐกิจจะบรรลุการลงจอดอย่างนุ่มนวล (Soft-Landing) หลังตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ถูกปรับขึ้นจาก 3.2% เป็น 3.4% ซึ่งหลักๆ แล้วมาจากการบริโภคที่ถูกปรับขึ้นจาก 3% เป็น 3.3%
  • หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสาร กลุ่มพลังงาน และกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลง
  • ตลาดจับตาข้อมูลเงินเฟ้อ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความสำคัญ โดยตัวเลขจะประกาศในวันศุกร์ (29 มี.ค.) ซึ่งเป็นวันหยุด Good Friday ที่ตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ปิดทำการ
  • ตลาดหุ้นยุโรป STOXX 600 ปิดบวกเล็กน้อยและทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) ต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวในช่วงแคบๆ ในสัปดาห์นี้ก่อนวันหยุดยาวสุดสัปดาห์ โดยตลาดจะปิดทำการในวันศุกร์นี้เนื่องในวัน Good Friday และจะปิดทำการในวันจันทร์หน้า (1 เม.ย.) เนื่องในเทศกาลอีสเตอร์
  • ตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei ปิดร่วงแรง หลังนักลงทุนมีความกังวลเรื่องการแทรกแซงค่าเงินเยนของทางการญี่ปุ่นซึ่งส่งผลต่อกำไรบริษัทส่งออก
  • ตลาดหุ้นจีน Shanghai Composite ปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลจีนจะออกมาตรการเชิงรุกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่า มอร์นิง โพสต์รายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนได้กล่าวกับบรรดาผู้นำด้านการเงินของจีนว่า จีนควรใช้เครื่องมือด้านนโยบายการเงินเชิงรุกซึ่งรวมถึงการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
  • ตลาดหุ้นไทย SET ปรับตัวลงแรงในช่วงท้ายตลาด เนื่องจากความผันผวนของตลาดฟิวเจอร์สจากการหมดอายุและ Roll over สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ประกอบกับเงินบาทอ่อนค่ากดดัน Fund Flow นักวิเคราะห์คาดว่าวันนี้ (29 มี.ค.) ตลาดมีโอกาสดีดตัวขึ้นจากการ Window Dressing ในวันปิดงวด ส่วนแนวโน้มตลาดในเดือนเมษายนน่าจะดีขึ้นตามการเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายปี 2567 และการประชุมสำคัญในวันที่ 10 เม.ย. ได้แก่ การประชุม กนง. เรื่องดอกเบี้ย และการประชุมคณะกรรมการเงินดิจิทัลวอลเล็ต

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

  • GDP ไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ของสหรัฐฯ มีการปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 3.4% ซึ่งมาจากภาคการบริโภคที่ขยายตัวขึ้น 3.3% มากกว่าไตรมาสที่ 3 ที่ทำฐานสูงไปแล้ว สะท้อนถึงการบริโภคที่แข็งแกร่งมากของสหรัฐฯ โดย S&P500 เมื่อคืนนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในวงกว้างซึ่งมีการกระจายตัวไปยังกลุ่ม Non-Tech อย่างต่อเนื่อง
  • แม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาค่อนข้างดีมาก แต่ Bond Yield ไม่ได้ปรับตัวขึ้นแต่อย่างใด สะท้อนถึงการรับรู้ไปในราคาค่อนข้างมากแล้ว ว่าเฟดน่าจะปรับลดดอกเบี้ยช้าลง แต่ก็น่าจะลดลงได้ในท้ายที่สุด จึงมองเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุนกองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,807.37 จุด เพิ่มขึ้น 47.29 จุด หรือ +0.12%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,254.35 จุด เพิ่มขึ้น 5.86 จุด หรือ +0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,379.46 จุด ลดลง 20.06 จุด หรือ -0.12%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 512.67 จุด เพิ่มขึ้น 0.92 จุด หรือ +0.18%
    • ดัชนีนิกเกอิปิดที่ระดับ 40,168.07 จุด ลดลง 594.66 จุด หรือ -1.46%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,010.66 จุด เพิ่มขึ้น 17.52 จุด หรือ +0.59%
    • ดัชนี S&P BSE Sensex ปิดตลาดที่ 73,635.48 บวก 639.16 จุด หรือ 0.88%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 1.82 ดอลลาร์ หรือ 2.24% ปิดที่ 83.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 25.70 ดอลลาร์ หรือ 1.16% ปิดที่ 2238.40 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,370.34 ลบ 10.49 จุด (-0.76%) 
    • Trading Volume: 33,679.87 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (-0.63%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (-0.37%) และกลุ่มไอซีที (-1.19%)  นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,808.11 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับลง 1-3 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับลง 1 bp
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับลง 1-3 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลง 1-2 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับลง 1-4 bps     
    • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 7,877.94 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,239.92 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน