สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
28/03/2567

ปัจจัยสำคัญ

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดบวกได้ทั้ง 3 ดัชนี หลังจากลบมา 3 วันทำการ โดยที่ดัชนี S&P500 ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All Time High) เป็นครั้งที่ 21 ในปีนี้ และกำลังจะปิดบวกเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันอีกด้วย
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (27 มี.ค.) ได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลง ทำให้หุ้นปรับตัวขึ้นเป็นวงกว้าง โดยที่หุ้นทั้ง 11 กลุ่มอุตสาหกรรมปิดบวก นำโดยกลุ่มสาธารณูปโภค กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มอุตสาหกรรม
  • ทั้งนี้ ตลาดจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ เช่น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน GDP ไตรมาสที่ 4 ที่เป็นการทบทวนและรายงานรอบสุดท้าย อีกทั้งจะมีรายงานดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ (29 มี.ค.) แม้ว่าตลาดจะปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday
  • ตลาดหุ้นยุโรป STOXX 600 ยังคงปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) ต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มปลอดภัย(Defensive Stock) เช่น กลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มเฮลท์แคร์ รวมถึงผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของหุ้น H&M ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกสินค้าแฟชั่นรายใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลก
  • ตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei ปรับตัวขึ้นเตรียมทดสอบจุดสูงสุดเดิม โดยได้แรงหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าสู่ระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบ 34 ปี แตะที่ 152 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อวานนี้ (27 มี.ค.) หลังกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะยังคงอยู่ใกล้ 0% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีการเข้าซื้อหุ้นของนักลงทุนเพื่อรับสิทธิในการได้รับเงินปันผลก่อนสิ้นปีงบการเงิน
  • ตลาดหุ้นจีน Shanghai Composite ปิดลบแรง ทำระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ตลาดถูกกดดันจากแรงขายสุทธิมูลค่า 9 พันล้านหยวน (1.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากตัวเลขกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนที่ปรับตัวขึ้น 10.2% ในช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ เมื่อเทียบเป็นรายปี อันเป็นสัญญาณบวกที่แสดงให้เห็นถึงการเริ่มต้นปี 2567 อย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจจีน
  • ตลาดหุ้นไทย SET ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากการผ่านร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายปี 2567 ในวุฒิสภา และสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะยังไม่เกิดปรากฏการณ์ Window Dressing เนื่องจากเม็ดเงินนักลงทุนสถาบันหายไปและเงินบาทที่ยังอ่อนค่าอยู่จึงยากที่เม็ดเงินต่างชาติจะกลับเข้ามา

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

  • ภาพรวมตลาดยังไม่มีปัจจัยสำคัญใหม่เข้ามากระทบ ตลาดหุ้นแต่ละแห่งเคลื่อนไหวในทิศทางที่แตกต่างกันตามปัจจัยเฉพาะตัวของแต่ละที่ ทั้งนี้ตลาดเฝ้ารอข้อมูลเศรษฐกิจที่จะรายงานในวันนี้ (28 มี.ค.) ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, GDP ไตรมาสที่ 4 ที่เป็นการทบทวนและรายงานรอบสุดท้าย
  • สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นทำ All Time High ต่อเนื่องนั้น สำหรับรายละเอียดเมื่อคืนนี้ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และ AI ปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่กลุ่ม Non-Tech กลับมา Outperform อาจเป็นสัญญาณของการกระจายกลุ่มกันมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้กลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นแรงกว่ามาก

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,760.08 จุด เพิ่มขึ้น 477.75 จุด หรือ +1.22%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,248.49 จุด เพิ่มขึ้น 44.91 จุด หรือ +0.86% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,399.52 จุด เพิ่มขึ้น 83.82 จุด หรือ +0.51%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 511.75 จุด เพิ่มขึ้น 0.66 จุด หรือ +0.13%
    • ดัชนีนิกเกอิปิดที่ระดับ 40,762.73 จุด เพิ่มขึ้น 364.70 จุด หรือ +0.90%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 2,993.14 จุด ลดลง 38.34 จุด หรือ -1.26%
    • ดัชนี S&P BSE Sensex ปิดตลาดที่ 72,996.31 บวก 526.02 จุด หรือ 0.73%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลง 27 เซนต์ หรือ 0.33% ปิดที่ 81.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 13.50 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 2212.70 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,380.83 บวก 3.60 จุด (+0.26%)  Trading Volume: 31,800.29 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (-0.07%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (-0.15%) กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (+0.92%) กลุ่มพาณิชย์ (+0.57%) และกลุ่มการแพทย์ (-0.04%)  นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 678.23 ล้านบาท 
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับลง 0-1 bp แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดไม่เปลี่ยนแปลง
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับลง 1 bp
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลง 1 bp
      • IRS SWAP ปิดปรับลง 1 bp
      • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 4,305.02 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 7,030.50 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน