สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
21/07/2566

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดสหรัฐปิดแบบผสมผสาน โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 9 ทำสถิติขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดในรอบ 6 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2560 อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงกว่า 2% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของบริษัทเทสลา และเน็ตฟลิกซ์
  • ราคาหุ้นเทสลาปิดตลาดร่วงลง 9.74% หลังจากบริษัทเปิดเผยอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ลดลงสู่ระดับ 18.2% ในไตรมาส 2/2566 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 18.8% ด้านหุ้นเน็ตฟลิกซ์ดิ่งลง 8.41% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 8.19 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 8.30 พันล้านดอลลาร์
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 228,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 242,000 ราย
  • สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 18.9% ในเดือน มิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดสำหรับยอดขายในเดือน มิ.ย.นับตั้งแต่ปี 2552 โดย NAR ระบุว่ายอดขายบ้านมือสองชะลอตัวลงเนื่องจากสต็อกบ้านในตลาดที่อยู่ในระดับต่ำ โดยสต็อกบ้านลดลง 13.6% ในเดือน มิ.ย. เมื่อเทียบรายปี อยู่ที่ระดับ 1.08 ล้านยูนิต
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกที่ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ กลุ่มแบงก์ และกลุ่มเฮลท์แคร์ แม้หุ้นกลุ่มชิปถูกเทขายอย่างหนัก หลังจาก TSMC ซึ่งเป็นบริษัทชิปของไต้หวันเปิดเผยคาดการณ์ยอดขายที่ซบเซา
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจีนเปิดเผยล่าสุดนี้จะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจได้
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีที่ระดับ 3.55% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีที่ระดับ 4.20% ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
  • สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนได้พบปะกับนายเฮนรี คิสซิงเจอร์ อดีตนักการทูตสหรัฐ ที่บ้านพักรับรองเตี้ยวอวี๋ไถในกรุงปักกิ่ง โดยยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการสนทนาเพิ่มเติม
  • บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก รายงานว่า กำไรไตรมาส 2/2566 ลดลง 10% แตะที่ 4.8084 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน (1.568 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากปีก่อนหน้า เทียบกับการคาดการณ์จากรีฟินิทิฟ (Refinitiv) ที่ 4.7883 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน ขณะที่กำไรสุทธิลดลง 23.3% แตะที่ 1.818 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันในไตรมาส 2/2566 จากปีก่อนหน้า เทียบกับการคาดการณ์ที่ 1.7255 แสนดอลลาร์ไต้หวัน
  • SET Index เปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะร่วงลงซื้อขายในแดนลบตลอดช่วงที่เหลือของวัน และปิดปรับตัวลดลงกว่า 1% โดยปิดที่จุดต่ำสุดของวัน จากแรงขายทำกำไรหลังดัชนีปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้ รวมถึงเป็นการขายลดความเสี่ยงจากปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองซึ่งอาจนำไปสู่การชุมนุมประท้วง ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคมีทั้งปิดบวกและลบ

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

ยังคงต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลจีน หลังจากนักวิเคราะห์พากันปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,225.18 จุด เพิ่มขึ้น 163.97 จุด หรือ +0.47%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,534.87 จุด ลดลง 30.85 จุด หรือ -0.68% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,063.31 จุด ร่วงลง 294.71 จุด หรือ -2.05%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 463.93 จุด เพิ่มขึ้น 1.96 จุด หรือ +0.42%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ระดับ 3,169.52 จุด ลดลง 29.31 จุด หรือ -0.92%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 75.63 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 9.90 ดอลลาร์ หรือ 0.50% ปิดที่ 1,970.90 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,521.18 ลบ 15.46 จุด (-1.01%)
      Trading Volume: 45,332.13 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (-1.16%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (-0.10%) กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (-1.02%) และกลุ่มพาณิชย์ (-0.84%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,702.73 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1-2 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1-3 bps
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1 bp
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดแกว่งตัว 1-2 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับขึ้น 3-6 bps
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน 
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน