สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
15/11/2566

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ทำสถิติทะยานขึ้นในวันเดียวสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.ปีนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค  ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 3.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน ต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 3.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน ก.ย. และต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าอาจเพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 3.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 4.0% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน ต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 4.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน ก.ย. โดยเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดเช่นกัน
  • เคร็ก เฟอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Edward Jones กล่าวว่า ตัวเลข CPI ที่ออกมาต่ำกว่าคาดในเดือน ต.ค. ทำให้ตลาดเชื่อมั่นว่าเฟดไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเพิ่มเติมเพื่อฉุดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลง
  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือน ต.ค. นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25 - 5.50% ในการประชุมเดือน ธ.ค. 2566 และเดือน ม.ค. 2567
  • ตลาดให้น้ำหนัก 65% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00 - 5.25% ในการประชุมเดือน พ.ค. 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 34% ในการสำรวจเมื่อวันจันทร์ และเร็วกว่าเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. 2567
  • บริษัท โฮม ดีโปท์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3/2566 ที่ระดับ 3.81 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.76 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 3.771 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.760 หมื่นล้านดอลลาร์
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกแรง เงินเฟ้อของสหรัฐชะลอตัวลงซึ่งเพิ่มความหวังว่าเฟดอาจยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และอาจเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินในไม่ช้านี้
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนร่วงลงอย่างรุนแรงหลังการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของอิตาลีร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน
  • นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปีหน้า และจะต้องรอจนถึงอย่างน้อยเดือน ก.ค. ที่ ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรก ด้านนักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์คาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก 0.25% ในเดือน มิ.ย.
  • เศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาส 3/66 หดตัว 0.1% จากไตรมาสก่อนหน้า และโต 0.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เท่ากับที่รายงานไปก่อนหน้านี้
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวก ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของจีนในวันนี้ (15 พ.ย.) ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกประจำเดือน ต.ค.
  • ตลาดจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีนอย่างใกล้ชิด โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ต.ค., ยอดค้าปลีกเดือน ต.ค. อัตราว่างงานเดือน ต.ค. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือน ต.ค.
  • นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกเดือน ต.ค. ของจีนอาจเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในเดือน ก.ย. ที่ปรับตัวขึ้น 5.5%
  • ตลาดหุ้นไทยวานนี้ซื้อขายในแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน ปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคมีทั้งปิดบวกและลบ ทั้งนี้ นักลงทุนรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ซึ่งอาจจะช่วยให้สามารถประเมินถึงทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐได้ดีขึ้น

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

ตลาดหุ้นสหรัฐตอบรับเชิงบวกอย่างมากกับตัวเลขเงินเฟ้อที่ประกาศออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ช่วยหนุนให้คาดการณ์ว่าเฟดอาจจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยผ่อนคลายให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ10 ปรับตัวลดลง ซึ่งจากนี้ถือเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะเข้าลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,827.70 จุด เพิ่มขึ้น 489.83 จุด หรือ +1.43% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,495.70 จุด เพิ่มขึ้น 84.15 จุด หรือ +1.91% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,094.38 จุด เพิ่มขึ้น 326.64 จุด หรือ +2.37%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 452.60 จุด เพิ่มขึ้น 5.98 จุด หรือ +1.34%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,056.07 จุด เพิ่มขึ้น 9.54 จุด หรือ +0.31%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดที่ 78.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของวันจันทร์ (13 พ.ย.)
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 16.30 ดอลลาร์ หรือ 0.84% ปิดที่ 1,966.50 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,386.04 ลบ 1.09 จุด (-0.08%)  Trading Volume: 47,585.65 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (+0.65%) ตามด้วยกลุ่มพาณิชย์ (-0.26%) และกลุ่มธนาคาร (+0.01%) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4.98 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับลดลง 1-3 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับลดลง 1-3 bps
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับลดลง 1-3 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลดลง 1-3 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับลดลง 4-6 bps      
    • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 49,916.46 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 702.14 ล้านบาท  
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน 
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน