สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
29/04/2567

ปัจจัยสำคัญ

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันที่ 26 เม.ย. โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ หลังบริษัทอัลฟาเบท และบริษัทไมโครซอฟท์เปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่ง
  • ตลาดขานรับการที่บริษัทอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งเกินคาด ประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรก และมีโครงการซื้อคืนหุ้นมูลค่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยราคาหุ้นอัลฟาเบทพุ่งขึ้น 10% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งหนุนมูลค่าตลาดขึ้นเหนือระดับ 2 ล้านล้านดอลลาร์
  • บริษัท ไมโครซอฟท์ เปิดเผยรายได้และผลกำไรไตรมาส 3 สูงเกินคาด โดยได้แรงหนุนจากการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากขึ้นในบริการคลาวด์ของบริษัท ทำให้หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่ง 1.8% และยังช่วยหนุนหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่อื่นๆ ปรับตัวขึ้นด้วย เช่น หุ้นอะเมซอน พุ่ง 3.4% หุ้นอินวิเดีย พุ่ง 5.8% และหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส บวก 0.4%
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือน ก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.6% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือน มี.ค. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.3% เช่นกันในเดือน ก.พ. และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
  • ดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 2.8% เช่นกันในเดือน ก.พ. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.6% และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือน มี.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% เช่นกันในเดือน ก.พ. และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
  • รายได้ส่วนบุคคลของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนก่อนหน้าในเดือน มี.ค. ตามคาด เร่งตัวจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือน ก.พ.
  • ตลาดคาดว่ามีโอกาสมากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือน ก.ย. โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับ 4.6630% หลังการเปิดเผยข้อมูล PCE
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันที่ 26 เม.ย. โดยปรับตัวขึ้นวันเดียวมากที่สุดในรอบกว่า 3 เดือน หลังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มเทคโนโลยีได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ
  • ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารของยุโรปแตะระดับ 197.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่เข้าทดสอบในเดือน ต.ค. 2558 โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้น 6.1% ของหุ้นธนาคารแนตเวสต์ของอังกฤษหลังเปิดเผยผลประกอบการแข็งแกร่งในไตรมาสแรก
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกในวันที่ 26 เม.ย. โดยตลาดปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มมุมมองเกี่ยวกับตลาดหุ้นจีน ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีน ซึ่งรวมถึงกำไรภาคอุตสาหกรรม
  • นักวิเคราะห์ของยูบีเอสคาดการณ์ว่า นักลงทุนต่างชาติจะค่อยๆ กลับเข้าสู่ตลาดหุ้นจีนผ่านทางโครงการ Stock Connect ในขณะที่บรรยากาศการซื้อขายในตลาดและสภาพแวดล้อมด้านเศรษฐกิจมหภาคของจีนเริ่มฟื้นตัว โดยยูบีเอสได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของตลาดหุ้นจีนสู่ระดับ Overweight
  • ตลาดหุ้นไทยวันที่ 26 เม.ย. แกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยซื้อขายในแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน ปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคมีทั้งปิดบวกและลบ โดยตลาดหุ้นจีนได้แรงหนุนจากการที่นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มมุมมองเศรษฐกิจและมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีนมากขึ้น และตลาดหุ้นเกาหลีใต้และฮ่องกงได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นจีน หลังจากที่เริ่มเห็นนักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นจีนเพิ่มมากขึ้น บวกกับกองทุนต่างประเทศเริ่มปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นจีน อีกทั้งในแง่ของระดับราคาอยุ่ในระดับที่ถูกมาก แต่อย่างไรก็ตาม ต้องคอยติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของจีนอย่างใกล้ชิด สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะในตลาดหุ้นจีนหรือมีสัดส่วนไม่มาก แนะนำเข้าลงทุนในตลาดหุ้นจีน

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,239.66 จุด เพิ่มขึ้น 153.86 จุด หรือ +0.40%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,099.96 จุด เพิ่มขึ้น 51.54 จุด หรือ +1.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,927.90 จุด เพิ่มขึ้น 316.14 จุด หรือ +2.03%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 507.98 จุด เพิ่มขึ้น 5.60 จุด หรือ +1.11% และปรับตัวขึ้น 1.8% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค.
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต 3,088.64 จุด เพิ่มขึ้น 35.74 จุด หรือ +1.17%
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 4.70 ดอลลาร์ หรือ 0.20% ปิดที่ 2,347.20 ดอลลาร์/ออนซ์
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.34% ปิดที่ 83.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,359.94 ลบ 4.33 จุด (-0.32%) Trading Volume: 40,183.94 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มธนาคาร (+0.74%) ตามด้วยกลุ่มพลังงาน (-0.82%) และกลุ่มพาณิชย์ (-1.44%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 822.78 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1-2 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1-2 bps
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1-2 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 1-2 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับขึ้น 1-2 bps
    • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 5,283.21 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,038.01 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นจีนและฮ่องกง
คลิก: KFACHINA-A | KF-CHINA | KFCMEGA-A | KFCSI300-A  | KFHCHINAD | KFACHINSSF | KFACHINRMF | KFCHINARMF | KFCMEGASSF | KFCMEGARMF
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน