สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
19/03/2567

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดบวก โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง เช่นหุ้นอัลฟาเบทและเทสลา ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้อย่างระมัดระวัง
  • หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 4.4% หลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัทแอปเปิ้ลกำลังเจรจากับกูเกิลเพื่อนำชุดโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) เจมิไน (Gemini) มาใช้ใน iPhone หากสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกัน จะถือเป็นดีลใหญ่ที่เขย่าวงการ AI และจะทำให้ความเป็นพันธมิตรด้านระบบเสิร์ช (Search) ของทั้งสองฝ่ายแข็งแกร่งขึ้น
  • หุ้นเทสลาพุ่งขึ้น 6.3% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะปรับขึ้นราคารถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Model Y ในบางประเทศของยุโรป
  • ลินเซย์ เบลล์ นักวิเคราะห์จากบริษัท 248 Ventures กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากท่าทีของนักลงทุนนั้นมีทั้งขานรับกระแสความนิยม AI และมีทั้งความกังวลเกี่ยวกับผลการประชุมเฟดในวันพุธนี้ (20 มี.ค.) โดยนักลงทุนต่างก็รอดูความชัดเจนว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือน มิ.ย. หรือเดือน ก.ค.
  • ตัวเลขเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐได้ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 51% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. ซึ่งลดลงจากระดับ 71% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
  • สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเพิ่มขึ้น 3 จุด สู่ระดับ 51 ในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2566 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 48 โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบนำโดยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม และตลาดถูกกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น หลังเงินเฟ้อยูโรโซนเป็นไปตามคาดในเดือน ก.พ.
  • หุ้นกลุ่มเทเลคอมนำตลาดปรับตัวลง โดยร่วงลง 1.4% ซึ่งรุนแรงสุดในรอบ 3 เดือน แต่หุ้นกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ปรับตัวขึ้น 0.9% หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ เพิ่มขึ้น 0.5% หลังราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 86 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน พ.ย. และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น 0.4% เนื่องจากนักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมนักพัฒนาประจำปีที่จัดโดยบริษัทอินวิเดีย
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ของเยอรมนีปรับตัวขึ้น 0.02% สู่ระดับ 2.458% หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อยูโรโซนเพิ่มขึ้นตามคาดที่ 2.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือน ก.พ. และ 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน
  • ตลาดคาดการณ์ในขณะนี้ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.83% ในปีนี้ ขณะที่นายปาโบล เฮอร์นันเดซ เด คอส กรรมการ ECB ยืนยันว่า ECB อาจจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. หลังจากเงินเฟ้อในยูโรโซนลดลง
  • ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดพุ่งมากกว่า 2% เนื่องจากสกุลเงินเยนที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเป็นปัจจัยหนุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการส่งออก นอกจากนี้ นักลงทุนยังคลายวิตกเกี่ยวกับการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่จะรู้ผลในวันนี้ (19 มี.ค.) อีกด้วย
  • มีรายงานล่าสุดว่า BOJ อาจจะตัดสินใจยุติมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเป็นพิเศษที่ดำเนินมาหลายปี อย่างไรก็ตาม นโยบายของ BOJ ก็ยังมีแนวโน้มยังเป็นแบบผ่อนคลายอยู่ โดยก่อนหน้านี้ นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ก็ย้ำว่าจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • คำสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของญี่ปุ่นลดลง 1.7% จากเดือนก่อนหน้าในเดือน ม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือน ธ.ค. และผิดไปจากที่ตลาดคาดว่าอาจลดลง 1.0% โดยเป็นผลจากการลดลงของคำสั่งซื้อของภาคการผลิต ในขณะที่คำสั่งซื้อนอกภาคการผลิตปรับตัวสูงขึ้น
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกเกือบ 1% ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของจีน
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) ว่า ยอดค้าปลีกในช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ. 2567 ปรับตัวขึ้น 5.5% ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.2% ขณะที่ยอดค้าปลีกทางออนไลน์พุ่งขึ้น 14.4% ในช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ. ขณะเดียวกัน การผลิตภาคอุตสาหกรรมในช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ. ปรับตัวขึ้น 7% ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5% ส่วนยอดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ. ปรับตัวขึ้น 4.2% ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.2% สำหรับอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ 5.3% ในช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. ปีก่อน จาก 5.1% ในเดือน ธ.ค. ทั้งนี้ รัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายอัตราการว่างงานไว้ที่ 5.5% ในปีนี้
  • ตลาดหุ้นไทยปิดลบ แกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยส่วนใหญ่ซื้อขายในแดนบวก ก่อนที่จะปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวันศุกร์ (15 มี.ค.) ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคมีทั้งปิดบวกและลบ ทั้งนี้ นักลงทุนรอดูผลการประชุมและคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยของเฟด

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาแข็งแกร่งของจีน สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากรัฐบาลประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ประกอบกับดัชนี CSI300 ไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่และมีสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่อง แนะนำหาโอกาสทยอยสะสมหุ้นจีนเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่มองหาโอกาสลงทุนในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และระดับราคาที่ยังอยู่ในโซนที่ถูกเพื่อคาดหวังการเติบโตหลังจากนี้

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,790.43 จุด เพิ่มขึ้น 75.66 จุด หรือ +0.20%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,149.42 จุด เพิ่มขึ้น 32.33 จุด หรือ +0.63% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,103.45 จุด เพิ่มขึ้น 130.27 จุด หรือ +0.82%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 503.94 จุด ลดลง 0.86 จุด, -0.17%
    • ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 39,740.44 จุด พุ่งขึ้น 1,032.80 จุด หรือ +2.67%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,084.93 จุด เพิ่มขึ้น 30.29 จุด หรือ +0.99%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 1.68 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 82.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 2.80 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 2,164.30 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,385.94 ลบ 0.10 จุด (-0.01%) Trading Volume: 49,767.84 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มธนาคาร (+0.34%) ตามด้วยกลุ่มพลังงาน (-0.55%) และกลุ่มพาณิชย์ (+0.22%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 297.94 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดเพิ่มขึ้น 1 bp แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดเพิ่มขึ้น 1 bp
      • อายุ >5-10 ปี ปิดเพิ่มขึ้น 1 bp
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับเพิ่มขึ้น 1 bp
      • IRS SWAP ปิดไม่เปลี่ยนแปลง
      • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 8,744.55 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,023.37 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นจีน คลิก: KFACHINA-A | KFCSI300-A | KFACHINSSF |  KFACHINRMF
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน