สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
18/04/2567

ปัจจัยสำคัญ

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยที่ Dow Jones ปิดลบ 7 จาก 8 วันทำการที่ผ่านมา ในขณะที่ S&P500 และ Nasdaq ปิดลบ 4 วันทำการติดต่อกัน โดยตั้งแต่เข้าสู่เดือน เม.ย. มานี้ ทั้ง 3 ดัชนีปรับตัวลดลงมาแล้วประมาณ 4 – 5% โดยปัจจัยกดดันมาจากแรงขายในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ หลังจากบริษัทเอเอสเอ็มแอล โฮลดิ้ง (ASML) ผู้ผลิตเครื่องจักรผลิตชิป รายใหญ่ของเนเธอแลนด์รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ต่ำกว่าคาด และมีรายได้ที่ลดลงราว 22% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • ตลาดหุ้นยุโรป STOXX 600 ทรงตัวหลังจากที่ร่วงลงแรงในวันอังคาร (16 เม.ย.) ซึ่งมาจากการผสมผสานกันของผลประกอบการบริษัทใหญ่ โดยที่แรงกดดันมาจาก บริษัทเอเอสเอ็มแอล โฮลดิ้ง (ASML) ที่ผลประกอบการไม่ดีตามรายละเอียดในย่อหน้าที่แล้ว ในขณะที่แรงหนุนมาจากผลประกอบการที่ดีของ เครือบริษัท แอลวีเอ็มเอช โมเอต์ เฮนเนสซี่ หลุยส์ วิตตอง (LVMH) ซึ่งได้พาหุ้นแบรนด์หรูหราตัวอื่นเช่น แอร์เมส (Hermes) และริชมอนด์ (Richemont) ปรับตัวขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ยังได้หุ้นอาดิดาส (Adidas) พุ่งแรง 8.6% จากผลประกอบการขั้นต้นที่ดีเกินคาด
  • ตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei ยังคงปรับตัวลงต่อ โดยล่าสุดลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน นอกจากปัจจัยกดดันอย่าง การที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในช่วงที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า เฟดจำเป็นต้องตรึงดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นระยะเวลานานขึ้นแล้ว ยังมีเรื่องการขายทำกำไรก่อนการเริ่มเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของญี่ปุ่น
  • ตลาดหุ้นจีน Shanghai Composite ปรับตัวขึ้นแรงกว่า 2% หลังจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกฎระเบียบใหม่ในการถอดหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลหลังจากที่ก่อนหน้านี้หุ้นที่มีทุนจดทะเบียนต่ำถูกเทขายออกมาอย่างหนัก โดยกฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับการถอดหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์นั้น จะมีผลกระทบต่อบริษัทเพียง 30 แห่งเท่านั้น และจะไม่ส่งผลกระทบต่อหุ้นที่มีทุนจดทะเบียนต่ำ
  • ตลาดหุ้นไทย SET ปรับตัวลงแรงเกือบ 30 จุด หลังกลับมาเปิดทำการจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมีการปรับตัวลงสอดคล้องกับดัชนีตลาดหุ้นประเทศอื่นที่รับปัจจัยลบต่างๆ ไปก่อนแล้ว ได้แก่ ความตึงเครียดในตะวันออกกลางระหว่างอิหร่านและอิสราเอล รวมถึงการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

  • ตลาดหุ้นยังถูกดดันอย่างต่อเนื่อง จากผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีต้นน้ำขนาดใหญ่อย่าง ASML ที่ออกมาไม่ดี สร้างความกังวลถึงอุปสงค์ของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ว่าจะรักษาอัตราการเติบโตได้แบบที่ผ่านมาหรือไม่ อย่างไรก็ดี เราเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นจากปัจจัยกดดันอื่น โดยเฉพาะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี (10Y Bond Yield) ที่เริ่มมีการหยุดขึ้นและปรับตัวลงมาบ้างแล้ว
  • ด้วย Bond Yield ที่ยังอยู่ในระดับสูง จึงเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าลงทุนเพิ่มในกองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก โดยแนะนำกองทุน KFTRB-A เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้กับนักลงทุนที่เปิดรับความเสี่ยงได้สูงกว่า KF-CSINCOM เนื่องจาก KFTRB-A มีการถือครอง Duration (อายุเฉลี่ยของตราสารหนี้) ที่มากกว่าทำให้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากกว่าหาก Bond Yield ปรับตัวลง แต่ในทางกลับกันความเสี่ยงเชิงลบก็จะมากกว่าหาก Bond Yield ปรับตัวขึ้น
  • สำหรับตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว มีความน่าสนใจมากขึ้นหลังจากมีการปรับฐานลงมาประมาณ 4 - 5% จึงแนะนำให้ทยอยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน KFGLOBAL-A

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,753.31 จุด ลดลง 45.66 จุด หรือ -0.12%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,022.21 จุด ลดลง 29.20 จุด หรือ -0.58% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,683.37 จุด ลดลง 181.88 จุด หรือ -1.15%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 498.52 จุด เพิ่มขึ้น 0.31 จุด หรือ +0.06%
    • ดัชนีนิกเกอิปิดที่ระดับ 37,961.80 จุด ลดลง 509.40 จุด หรือ -1.32% 
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,071.38 จุด เพิ่มขึ้น 64.31 จุด หรือ +2.14%
    • ดัชนี S&P BSE Sensex ปิดทำการ เนื่องในวันประสูติของพระราม (Ram Navami)
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลง 2.67 ดอลลาร์ หรือ 3.13% ปิดที่ 82.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 19.40 ดอลลาร์ หรือ 0.81% ปิดที่ 2,388.40 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,366.94 ลบ 29.44 จุด (-2.11%) 
      Trading Volume: 62,382.11 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายมาก
      โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (-0.88%) ตามด้วยกลุ่มธนาคาร (-3.44%) และกลุ่มพาณิชย์ (-2.86%)  นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,395.39 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 2-5 bps แบ่งตามช่วงอายุดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 2-7 bps
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 2-4 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 1-4 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับลดลง 1-2 bps
    • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 3,606.84 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,509.73 ล้านบาท
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน