สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
16/02/2567

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก ด้านดัชนี S&P500 ปิดทำนิวไฮ หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกลดลงมากกว่าคาด ซึ่งทำให้ตลาดมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 0.8% ในเดือน ม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน ธ.ค. และเมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเพียง 0.65% หลังจากพุ่งขึ้น 5.3% ในเดือน ธ.ค.
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 212,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 219,000 ราย
  • โธมัส มาร์ติน นักวิเคราะห์จากบริษัท GLOBALT กล่าวว่า "ยอดค้าปลีกที่ลดลงมากกว่าคาดอาจสะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงเล็กน้อย แต่ในข่าวร้ายนี้ก็มีข่าวดีอยู่ด้วยเช่นนี้ เพราะนั่นหมายถึงเฟดมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย"
  • นายออสแทน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า เป้าหมายของเฟดในการทำให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% ยังคงมีความเป็นไปได้ แม้ว่าเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงกว่าคาดในช่วงหลายเดือนข้างหน้า และเขาไม่สนับสนุนให้เฟดรอจนกระทั่งตัวเลขเงินเฟ้อแตะระดับ 2% จึงจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 40% ต่อการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน พ.ค. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีก
  • ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยข้อมูลจาก LSEG (London Stock Exchange Group) ระบุว่าบริษัทในดัชนี S&P500 ที่ได้รายงานผลประกอบการไปแล้วนั้น มี 80.3% ที่รายงานผลประกอบการสูงกว่าคาด ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยรายปีที่ระดับ 76%
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกโดยการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นฝรั่งเศสและเยอรมนีสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนประเมินความเห็นของนางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เกี่ยวกับกระบวนการลดเงินเฟ้อในยูโรโซน
  • บริษัท เรโนลต์ รายงานกำไรและรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มเงินปันผลขึ้นอย่างมาก ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มรถยนต์ของยุโรปสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี, บริษัท เพอร์นอด ริคาร์ด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสุรา ยืนยันคาดการณ์การขยายตัวในระยะยาว และบริษัท คอมเมิร์ซแบงก์ เปิดเผยผลกำไรปี 2566 สูงที่สุดในรอบ 15 ปี โดยได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
  • นางลาการ์ดเปิดเผยกับรัฐสภายุโรปว่า ข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซนในช่วงที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อกำลังลดลงสู่เป้าหมายตามคาด โดยนักวิเคราะห์รายหนึ่งแสดงความเห็นว่า ECB มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่าเฟด หรือธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลง
  • ตลาดหุ้นไทยวานนี้ซื้อขายในแดนบวกเกือบตลอดทั้งวัน ปิดปรับตัวสูงขึ้น ทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคที่ฟื้นตัวตามตลาดหุ้นสหรัฐ ในขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้นแรงจากผลประกอบการที่ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาด 

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปิดปรับตัวบวกอย่างร้อนแรง ส่วนหนึ่งได้ปัจจัยบวกจากกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศออกมาดีซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ อีกทั้งตลาดยังมองไปถึงเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีแนวโน้มว่าทั้ง FED และ ECB จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,773.12 จุด เพิ่มขึ้น 348.85 จุด หรือ +0.91%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,029.73 จุด เพิ่มขึ้น 29.11 จุด หรือ +0.58% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,906.17 จุด เพิ่มขึ้น 47.03 จุด หรือ +0.30%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 488.54 จุด เพิ่มขึ้น 3.30 จุด หรือ +0.68%
    • ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 10.60 ดอลลาร์ หรือ 0.53% ปิดที่ 2,014.90 ดอลลาร์/ออนซ์
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้น 1.39 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 78.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ในประเทศ
    • SET ปิดที่ 1,387.27 บวก 2.16 จุด (+0.16%)  Trading Volume: 42,060.19 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างน้อย โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มธนาคาร (-1.11%) ตามด้วยกลุ่มพลังงาน (-0.29%) และกลุ่มพาณิชย์ (+2.41%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,341.57 ล้านบาท
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับลดลง 1 bp แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับลดลง 1 bp
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับลดลง 1 bp
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลดลง 1-2 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับลลดง 1 bp       
    • นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 20,225.32 ล้านบาท  นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,977.64 ล้านบาท       
ที่มา: Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9
 
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน
ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน