สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
23/11/2565

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดสหรัฐปิดบวก โดยดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 400 จุดในวันอังคาร (22 พ.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง หลังจากเบสท์บาย ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกสินค้าอิเลกทรอนิกส์รายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันยังเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน
  • นอกจากนี้ การร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาตราสารหนี้ทั่วโลกซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองด้วยนั้น ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนในการชำระหนี้ของบริษัทจดทะเบียน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีร่วงลงสู่ระดับ 3.771% เมื่อคืนนี้
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มน้ำมัน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซน ท่ามกลางการส่งสัญญาณที่ไร้ทิศทางจากผู้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
  • เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณที่แตกต่างกันเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในยูโรโซน โดยนายโจชิม นาเจล ประธานธนาคารกลางเยอรมนีบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยลง ขณะที่นายโรเบิร์ต โฮลซ์แมนน์ ประธานธนาคารกลางออสเตรียกล่าวว่าเขาสนับสนุนให้ ECB ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งต่อไป
  • คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -23.9 ในเดือน พ.ย. จากระดับ -27.5 ในเดือน ต.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ -26.0
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลจีนให้ความช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังประสบปัญหาด้านการเงิน อย่างไรก็ดี ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในจีน ส่งผลให้ตลาดปรับลดช่วงบวกลงบ้าง
  • หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้นขานรับรายงานข่าวที่ว่า ธนาคารกลางจีนจะจัดหาเงินกู้วงเงิน 2 แสนล้านหยวน (2.792 หมื่นล้านดอลลาร์) ให้กับธนาคารพาณิชย์ 6 แห่งเพื่อปล่อยกู้ให้กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์อีกทอดหนึ่ง ซึ่งนับเป็นมาตรการล่าสุดที่รัฐบาลพยายามคลี่คลายวิกฤตสภาพคล่องในภาคอสังหาริมทรัพย์
  • จีนเตรียมปรับลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ลงเหลือ 3% สำหรับการนำเข้าและการผลิตในประเทศ รวมถึงการจัดจำหน่ายมากขึ้นสำหรับยาต้านมะเร็งและโรคหายาก (rare diseases)
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศอัดฉีดเงิน 2 พันล้านหยวน (ประมาณ 279 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ระบบการเงินผ่านข้อตกลง reverse repo ประเภทอายุ 7 วัน โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ 2%
  • SET Index แกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ทั้งในแดนบวกและลบ โดยในช่วงเช้าส่วนใหญ่ดัชนีแกว่งตัวในแดนบวก แต่กลับปรับตัวลดลงซื้อขายในแดนลบตลอดช่วงบ่าย และปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากแรงขาย TRUE และ DTAC หลังประกาศยกเลิกการทำ Tender offer ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคมีทั้งปิดบวกและลบ โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (+0.04%) ตามด้วยกลุ่มไอซีที (-2.31%) กลุ่มพาณิชย์ (+0.15%) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (+1.30%) และกลุ่มอาหาร (-0.70%) นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 284.89 ล้านบาท

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

รัฐบาลบาลจีนยังคงออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ในขณะที่นักลงทุนยังคาดหวังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดของจีน

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,098.10 จุด พุ่งขึ้น 397.82 จุด หรือ +1.18%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,003.58 จุด เพิ่มขึ้น 53.64 จุด หรือ +1.36% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,174.41 จุด เพิ่มขึ้น 149.90 จุด หรือ +1.36%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 436.22 จุด เพิ่มขึ้น 3.16 จุด หรือ +0.73%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,088.94 จุด เพิ่มขึ้น 3.90 จุด หรือ +0.13%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 80.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,739.90 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • ดัชนี SET ปิดที่ 1,615.33 ลบ 3.53 จุด (-0.22%)
      Trading Volume: 57,229.78 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดแกว่งตัว 1-2 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1 bp
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับลดลง 1-2 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับลดลง 1-4 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับลดลง 1-9 bps
ที่มา : Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9

กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นจีน A-Shares คลิก : KFACHINA-A | KFACHINSSF | KFACHINRMF

ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน