ทางเลือกการลงทุนที่เหนือกว่า...ท่ามกลางภาวะตลาดผันผวน
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด หรือ บลจ.กรุงศรี จัดสัมมนาในหัวข้อ "Riding out of Volatility, Seeking a Source of High Quality Yield" เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา นำเสนอทางเลือกการลงทุนเพื่อโอกาสเพิ่มผลตอบแทนท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจผันผวน ผ่านการลงทุนใน Preferred Securities ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน หรือกองทุนตราสารบุริมสิทธิ์ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าตราสารหนี้ทั่วไป ความเสี่ยงต่ำกว่าตราสารทุน พร้อมนำเสนอกองทุนเปิดกรุงศรีพรีเฟอร์มิกซ์เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ - สะสมมูลค่า (KFPREFER-A) ที่จะลงทุนผ่านกองทุนหลัก Manulife Global Fund - Preferred Securities Income Fund หนึ่งในกองทุนระดับโลกที่เชี่ยวชาญการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ เสนอขาย 21- 30 ตุลาคมนี้
คุณศิริพร สินาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงศรี กล่าวเปิดงานพร้อมให้มุมมองต่อสภาวะการลงทุนในปัจจุบันว่า ปีนี้ที่ถือเป็นปีที่ค่อนข้างยากจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก จากปัจจัยต่างๆ เช่น สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ การลงทุนให้หุ้นจึงมีความผันผวนสูง ในขณะเดียวกัน การลงทุนในตราสารหนี้ก็ยังให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างต่ำ แม้แต่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะ 10 ปีก็ให้ผลตอบแทนไม่ถึง 1.5% บลจ.กรุงศรีจึงพยายามมองหารูปแบบการลงทุนใหม่ๆที่จะเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนเพื่อโอกาสเพิ่มผลตอบแทนบนความเสี่ยงและความผันผวนที่ไม่มากนัก
ที่งานสัมมนา บลจ.กรุงศรีได้เชิญ คุณ Dylan Ngai ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนด้านตลาดตราสารหนี้จาก Manulife Global Fund - Preferred Securities Income Fund พร้อมด้วยคุณเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก บลจ.กรุงศรี มาร่วมกันให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน ความน่าสนใจ โอกาสและความเสี่ยง ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนหลัก ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การบริหารจัดการ การคัดเลือกสินทรัพย์ พอร์ตการลงทุนของกองทุน ผลตอบแทนที่ผ่านมา และความคาดหวังในอนาคต
คุณเกียรติศักดิ์อธิบายถึงตลาด Preferred Securities ว่าเป็นสินทรัพย์ประเภทตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน หรือเรียกว่าตราสารบุริมสิทธิ ในประเทศไทยมีการลงทุนลักษณะนี้อยู่บ้างที่รู้จักกันในชื่อ หุ้นกู้ด้อยสิทธิ์ หรือตราสารหนี้ด้อยสิทธิ์ สินทรัพย์นี้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี บริษัทผู้ออกตราสารเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม Preferred Securities จะมีลักษณะเหมือนตราสารหนี้ทั่วไป คือนักลงทุนจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของอัตราดอกเบี้ยคงที่จากบริษัทผู้ออกตราสาร แต่มักจะสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยทั่วไป เนื่องจากมีระดับโครงสร้างเงินทุนที่ต่ำกว่าตราสารหนี้ปกติ
สำหรับเหตุผลที่บริษัทต้องการออกตราสารประเภทนี้ คุณ Dylan กล่าวว่า เนื่องจากกฎระเบียบที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุวิกฤติเมื่อปี 2008 สถาบันการเงินล้มละลายส่งผลกระทบในวงกว้าง ทางการจึงออกกฏเกณฑ์ให้บริษัทมีฐานเงินทุนสำรองมากขึ้น แต่การเพิ่มทุนจะทำให้เกิดส่วนแบ่งผลกำไรของผู้ถือหุ้นลดลง และนักลงทุนก็จะมองว่ากิจการมีปัญหา บริษัทจึงหาทางออกด้วยการออกหุ้นกู้เพื่อระดมทุนแทน โดยการออกหุ้นกู้ดังกล่าว แม้ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับนักลงทุน แต่ก็ยังมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการออกหุ้นสามัญทั่วไป และที่สำคัญหุ้นกู้มีสภาพคล่องสูง มีความยืดหยุ่นสำหรับบริษัทมากกว่า อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทยังคงดีอยู่ และบริษัทสามารถไถ่ถอนเมื่อไหร่ก็ได้ อีกประการหนึ่งคือนักลงทุนก็มีความต้องการมากในขณะนี้ เพราะต้องการมองหาช่องทางและโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนให้มากขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ
คุณ Dylan กล่าวเสริมว่า Preferred Securities เป็นสินทรัพย์ที่มีมานานตั้งแต่ต้นปี 1900 และค่อนข้างมีความมั่นคงโดยตลาดหลักอยู่ที่สหรัฐอเมริกา มีสัดส่วนประมาณ 2 ใน 3 ของมูลค่าตลาดทั้งหมด มีมูลค่า 900,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองจาก US High Yield Bond อยู่ไม่มากนัก และหากพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี Preferred Securities ให้ผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดตราสารหนี้ในขณะที่มีความผันผวนต่ำกว่า ขณะเดียวกัน อัตราการผิดนัดชำระหนี้ก็ค่อนข้างต่ำมาก มีเพียง 0.05% ในช่วง 10 ปีระหว่าง ปี 2008 - 2018 ขณะที่ Global High Yield bond มีอัตราการผิดนัดชำระหนี้สูงถึง 3.78% และในรอบ 10 ปีนั้น มีเพียง 2 ครั้งเท่านั้นที่มีผลตอบแทนติดลบ คือปี 2008 ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ส่งผลกระทบทั่วโลกและปี 2018 ที่ติดลบ 4.45%
สำหรับปี 2019 Preferred Securities เป็นตราสารที่สร้างผลตอบแทนได้สูงที่สุดถึง 15.02% และคาดการณ์ว่าแนวโน้มนี้จะยังคงอยู่ต่อไป เนื่องจากหากดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ ความต้องการของตลาดต่อ Preferred Securities จะยังเพิ่มมากขึ้น จึงถือว่าเป็นทางเลือกที่ยังน่าสนใจในการลงทุน
คุณเกียรติศักดิ์ กล่าวต่อว่า บลจ.กรุงศรีได้คัดเลือก กองทุน Manulife Global Fund - Preferred Securities Income Fund มาเป็นกองทุนหลักเนื่องจากเป็นกองทุนระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญการลงทุนในตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ปัจจุบัน กองทุนมีมูลค่าการลงทุนกว่า 4.6 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ที่มา : Manulife Investment Management ณ 31 ธ.ค. 61) มีการลงทุนอยู่ในสินทรัพย์ 74 ตัว กระจายไปในหลายอุตสาหกรรม ในสินทรัพย์คุณภาพสูง มีอันดับความน่าเชื่อถือไม่ต่ำกว่า BBB- ที่ผ่านการพิจารณาและวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนจนมีความเชื่อมั่นว่าจะเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดี โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่กองทุนให้น้ำหนักการลงทุน ได้แก่ สาธารณูปโภค ประกันภัย ธนาคาร พลังงาน และโทรคมนาคม เนื่องจากเป็นภาคธุรกิจที่มีรายได้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่ให้น้ำหนักการลงทุนลดหลั่นลงไป ได้แก่ กลุ่มการเงิน สำหรับภูมิภาคที่เน้นลงทุน คือ อเมริกาและแคนาดาเนื่องจากมีขนาดตลาดใหญ่ที่สุดของมูลค่าตลาดรวมทั้งหมด ที่เหลือจะกระจายในตลาดที่พัฒนาแล้ว เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น เป็นต้น (ที่มา : Manulife Investment Management ณ 31 ส.ค. 62)
นอกจากนี้ กองทุนหลักมีกลยุทธ์การลงทุนแบบเชิงรุกโดยจะมีทีมนักวิเคราะห์ที่มีเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทนี้ คอยมองหาบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีรายได้มั่นคง ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับที่ดี แม้พอร์ตโดยรวมจะเป็น BBB- ทว่า หากพิจารณาอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทผู้ออกตราสารประเภทนี้ จะอยู่ในระดับ BBB+ ขึ้ไป นอกจากนี้ ยังพิจารณาภาพรวมของเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย หากมีการเปลี่ยนแปลงอันใดที่อาจส่งผลกระทบทำให้สินทรัพย์มีความเสี่ยง ผู้จัดการกองทุนอาจจะพิจารณาขายออก กลยุทธ์การบริหารเช่นนี้ทำให้กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอ (ที่มา : Manulife Investment Management ณ 31 ส.ค. 62)
กองทุนจัดตั้งเมื่อเดือนกันยายน 2018 โดยสร้างผลตอบแทนในระดับที่สูงถึงเกือบ 9% นับตั้งแต่วันที่จัดตั้ง โดยที่ผลตอบแทนสำหรับปีนี้สูงถึง 16.63% อันเป็นผลมาจากการคาดการณ์การลงทุนที่ถูกต้องทำให้ได้รับส่วนต่างผลกำไรจากการลงทุนด้วย ทั้งนี้ กองทุนคาดการณ์ว่าในปีนี้ผลตอบแทนอาจจะปรับลดลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 6% ซึ่งถือว่าดีกว่าอัตราดอกเบี้ยและดีกว่ากองทุนตราสารหนี้ทั่วไป
คุณเกียรติศักดิ์ มองว่า Preferred Securities สามารถใช้เป็นตัวเสริมให้กับพอร์ตตราสารหนี้หลักที่นักลงทุนมีอยู่แล้วเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากพอร์ตที่มีอยู่ และลดความผันผวนจากการลงทุนในประเภทอื่นๆ
นักลงทุนที่สนใจกองทุนทางเลือกใหม่นี้ สามารถลงทุนผ่านกองทุน KFPREFER-A ซึ่งมีกำหนดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 21 - 30 ตุลาคมนี้ โดยจะมีโปรโมชั่นลดค่าธรรมเนียมแรกเข้าจาก 1% เหลือ 0.75% สำหรับยอดเงินลงทุน 30 ล้านบาทขึ้นไป กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และผู้ลงทุนสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ (หลัง IPO ทำการซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. 62)
คำเตือน
• KFPREFER-A มีนโยบายการลงทุนในกองทุนหลัก Manulife Global Fund - Preferred Securities Income Fund (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV มีความเสี่ยงกองทุนระดับ 5 - เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง
• เนื่องจากกองทุนหลักมีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์บุริมสิทธิของบริษัทต่างๆ ทั่วโลก ดังนั้น กองทุนอาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และ/หรือการเมืองในประเทศซึ่งกองทุนหลักได้ลงทุน
• กองทุนอาจมีการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment grade) หรือไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (unrated) ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการไม่ได้ชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ย
• กองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ซึ่งอาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงเล็กน้อยจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
• กองทุนไทยและ/หรือกองทุนหลัก อาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน ทำให้กองทุนไทยและ/หรือกองทุนหลัก อาจมีความเสี่ยงมากกว่ากองทุนรวมที่ลงทุนในหลักทรัพย์อ้างอิงโดยตรง เนื่องจากใช้เงินลงทุนในจำนวนที่น้อยกว่าจึงมีกำไร/ขาดทุนสูงกว่าการลงทุนในหลักทรัพย์อ้างอิงโดยตรง
• ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนกองทุนได้ที่
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
โทร. 0 2657 5757 | E-mail: krungsriasset.mktg@krungsri.com | Website: www.krungsriasset.com
หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา หรือตัวแทนสนับสนุนการจำหน่ายหน่วยลงทุน
ย้อนกลับ