Flash Update


Flash Update 8 กรกฎาคม 2565

08/07/2565

มุมมองและความน่าสนใจของหุ้น Tech และหุ้น Growth

  • หุ้นกลุ่ม Technology และหุ้นเติบโต (Growth Stock) มีแนวโน้มกลับมาได้ดีกว่าตลาด
  • ความน่าสนใจของหุ้น Tech คือมีมูลค่าหุ้น (Valuation) ที่ต่ำมาก
  • ปัจจัยสนับสนุนได้แก่ ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง และตลาดมองว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังปรับลดลง
  • หุ้น Tech ยังสามารถเติบโตได้ เพราะไม่ได้พึ่งพิง GDP มากนัก เหมือนกลุ่มลงทุน (Sector) อื่นๆ และที่ผ่านมา สถานการณ์ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) เป็น แบบ Flattening ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัว หุ้นกลุ่ม Tech จะเป็นกลุ่มการลงทุนที่กลับมาได้ดีกว่าตลาด

ถึงเวลาของหุ้นเทคโนโลยี (Tech) และหุ้นเติบโต (Growth Stock)

  • หุ้นกลุ่ม Tech รวมไปถึงหุ้น Growth มีแนวโน้มที่จะกลับมาได้ดีกว่าตลาด ด้วยปัจจัยราคา (Valuation) ที่ถูกลงอย่างมาก อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงตามราคาน้ำมัน และเป็นกลุ่มลงทุนที่โดดเด่นในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว

มูลค่าหุ้น (Valuation) ของหุ้นเทคโนโลยีที่ถูกลงอย่างมาก

  • นับตั้งแต่ต้นปี 2022 หุ้นกลุ่ม Tech ปรับตัวลงกว่าตลาดหุ้นเป็นอย่างมาก โดยดัชนี MSCI ACWI Tech ปรับลดลง 29% เปรียบเทียบกับ MSCI ACWI ที่ลดลง 21%
  • ราคาตลาดต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (PE Ratio) ของ MSCI ACWI Tech ถูกปรับลดลงเหลือ 19 เท่าจากที่เคยสูงถึง 29 เท่า เมื่อต้นปี ปัจจุบันถูกกว่า MSCI ACWI Consumer Staple ที่ PE 20 เท่า

จุดเปลี่ยนหุ้น Tech

  • อัตราเงินเฟ้อและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ที่กดดันหุ้น Tech และหุ้น Growth มาตลอด กำลังถึงจุดเปลี่ยน
  • ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมาอย่างรวดเร็ว ราคาน้ำมันดิบ Brent จากระดับสูงสุด 123 ดอลลาร์ ในเดือน มิ.ย. เหลือ 103 ดอลลาร์ เป็นการลดลง 16% ภายในระยะเวลา 1 เดือน
  • ตลาดมองเงินเฟ้อกำลังลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ US Breakeven Inflation 1 ปี เหลือเพียง 4.0% โดยลดลงจาก 6.3% ในเดือน มี.ค. และ 5.5% ในเดือน มิ.ย. ส่งผลให้ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี (US10Y) ปรับตัวลงจาก 3.5% ในกลางเดือน มิ.ย. เหลือเพียง 2.8%

หุ้นกลุ่ม Tech กับภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession)

  • ในเวลาที่เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว หุ้นกลุ่ม Tech จะยังสามารถเติบโตได้ด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรม (Innovation) ไม่ได้พึ่งพิงผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) เหมือนกลุ่มการลงทุนอื่นๆ
  • จากข้อมูลในอดีต เวลาที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) เป็นแบบ Flattening (ส่วนต่างของผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาวนั้นแคบลง) ซึ่งแสดงถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัว หุ้นกลุ่ม Tech จะเป็น Sector ที่กลับมาได้ดีกว่าตลาด

มุมมองการลงทุนของบลจ.กรุงศรี

  • สำหรับกองทุนรวมที่เน้นหุ้นกลุ่ม Growth แนะนำกองทุน KFGG-A และ KFUS-A
  • ส่วนกองทุนรวมที่เน้นหุ้นกลุ่ม Technology แนะนำกองทุน KFGTECH-A, KFHTECH-A และ KFCYBER-A

ข้อมูลกองทุน คลิก: KFGG-A | KFUS-A | KFGTECH-A | KFHTECH-A | KFCYBER-A 


นโยบายการลงทุนและคำเตือน

  • KFGG-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund, Class B USD Acc (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV ระดับความเสี่ยง 6 - เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย ≥ 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ)
  • KFUS-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ Baillie Gifford Worldwide US Equity Growth Fund, Class B Acc (USD) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV ระดับความเสี่ยง 6 - เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • KFGTECH-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ T. Rowe Price Funds SICAV - Global Technology Equity Fund (Class Q) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV ระดับความเสี่ยง 7 - เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ | กองทุนลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก l ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน
  • KFHTECH-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ BGF World Technology Fund (Class D2 USD) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV ระดับความเสี่ยง 7 - เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน | กองทุนลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก | ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน
  • KFCYBER-A ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ Allianz Global Investors Fund - Allianz Cyber Security, Class RT (USD) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV ระดับความเสี่ยง 6 - เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย ≥ 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ) | กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนทั่วโลกของบริษัทที่ประกอบธุรกิจหรือได้รับประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) | กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม Software จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอดูหนังสือชี้ชวน โปรดติดต่อ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรีจำกัด โทร 0 2657 5757 หรืออีเมล krungsriasset.clientservice@krungsri.com
เอกสารประกอบเปิดด้วยโปรแกรม Acrobat Reader หากท่านไม่มีโปรแกรมดังกล่าว คลิกเพื่อ ดาวน์โหลด โปรแกรม (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

ย้อนกลับ

ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน