Flash Update


Flash Update 12 ตุลาคม 2564

12/10/2564

ผลกระทบจากการจัดระเบียบธุรกิจต่อตลาดหุ้นจีน และกองทุน KFCMEGA-A

 

สรุปประเด็นสำคัญ

  • ตลาดหุ้นจีนได้ผ่านจุดต่ำสุดของความเสี่ยงเรื่อง Regulatory crackdown ไปแล้ว การฟื้นตัวในระยะแรกยังคงเปราะบาง แต่การเติบโตของเมกะเทรนด์ในจีนจะสนับสนุนการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในระยะต่อไป

ตลาดหุ้นจีนผันผวนจากความเสี่ยงเรื่องการจัดระเบียบภาคธุรกิจ

  • ในไตรมาส 3/2564 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจีนเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเข้ามาควบคุมภาคธุรกิจมากขึ้น โดยตลาดหุ้นจีนเริ่มเจอแรงขายอย่างหนัก หลังจากข่าวรัฐบาลจีนต้องการให้โรงเรียนกวดวิชาเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ซึ่งความเสี่ยงดังกล่าว สร้างความกังวลให้กับหุ้นเมกะเทรนด์ในอุตสาหกรรมอื่น เช่น เทคโนโลยี E-commerce Fintech Healthcare และ อสังหาริมทรัพย์
  • การเข้ามาควบคุมภาคธุรกิจของรัฐบาลเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากต้องการให้ภาคธุรกิจ และสังคมมีการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ดังสะท้อนจากนโยบายของรัฐบาล ซึ่งพุ่งเป้าไปที่การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม การป้องกันการผูกขาดทางการค้า การส่งเสริมความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล การปรับลดราคายาสามัญ เพื่อลดภาระให้กับประชาชน การปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำของภาคธุรกิจ และการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน โดยนโยบายเหล่านี้จะนำไปสู่เศรษฐกิจจีนที่มีคุณภาพสูงขึ้น บริษัทในอุตสาหกรรมที่ได้รับแรงกดดันของรัฐบาล ต้องปรับตัวเพื่อเข้าถึงโอกาสในตลาดผู้บริโภคของจีนที่มีขนาดใหญ่และมีการขยายตัวสูง
  • สำหรับกองทุน KFCMEGA-A ปรับตัวลดลง -18.3% ในไตรมาส 3/2564 จากปัจจัยเสี่ยงเรื่องนโยบายของรัฐบาล ซึ่งการปรับตัวลดลงดังกล่าว สะท้อนมาจากกองทุน ETF ที่ KFCMEGA-A เข้าไปลงทุน คือ Invesco China Technology ETF (CQQQ) ที่เน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีน, Global X MSCI China Consumer Discretionary ETF (CHIQ) ที่เน้นการลงทุนในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยของจีน และ KraneShares MSCI All China Health Care Index ETF (KURE) ลงทุนในบริษัทของจีนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพ ซึ่งปรับตัวลดลง -21.9%, -20.7% และ -17.9% ตามลำดับ ขณะที่ KraneShares MSCI China Clean Technology Index ETF (KGRN) ที่เน้นลงทุนในเทคโนโลยีสะอาด ปรับตัวลดลงน้อยกว่าที่ -11.2% สะท้อนว่า นักลงทุนลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนเรื่องนโยบายของรัฐบาล ในอุตสาหกรรมที่อาจได้รับผลกระทบ และย้ายการลงทุนไปยังอุตสาหกรรมที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น พลังงานสะอาด อย่างไรก็ดี จาก Sentiment เชิงลบที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดแรงขายทั่วทั้งตลาดหุ้นจีน 

จับตาท่าทีที่อ่อนลงของรัฐบาลจีน

  • การที่รัฐบาลจีนออกมาจัดระเบียบในหลายอุตสาหกรรมในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวแรงหลังจากวิกฤติ Covid-19 และการฟื้นตัวของภาคบริโภคและการส่งออก ส่งผลให้ GDP ของจีนปีนี้ มีแนวโน้มขยายตัวสูงราว 7-8% ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าปกติ อย่างไรก็ดี จากทิศทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง และปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้รัฐบาลจีนดำเนินนโยบายที่ผ่อนคลายลง ทั้งการอัดฉีดสภาพคล่องระยะสั้น และการปรับลดอัตราส่วนสำรองขั้นต่ำ (RRR)
  • ตลาดหุ้นจีนกำลังอยู่ในช่วงปลายของการจัดระเบียบธุรกิจ (Regulatory reset) โดยสื่อทางการจีน รายงานว่า รัฐบาลจีนได้ประสบความสำเร็จขั้นแรก ในการป้องกันการจัดสรรเงินทุนที่ไม่เป็นระบบ และการป้องกันการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม โดยการจัดระเบียบของรัฐบาล มีเป้าหมายเพื่อปรับสมดุลระหว่างการเติบโตของภาคธุรกิจ ความปลอดภัยของผู้บริโภค และความเท่าเทียมกันทางสังคม
  • หลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีของจีน ล่าสุดออกมาให้ความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจีนยังคงให้การสนับสนุนภาคธุรกิจเหมือนเดิมเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และการสร้างนวัตกรรมในอนาคตบนพื้นฐานของการแข่งขันอย่างเป็นธรรม เนื่องจากภาคธุรกิจมีสัดส่วนกว่า 60% ของ GDP จีน และ 70% ของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

ตลาดหุ้นจีนปรับฐานรองรับการเติบโตของหุ้นเมกะเทรนด์จีน

  • การปรับฐานของหุ้นจีนรอบนี้ทำให้หุ้นเมกะเทรนด์ของจีนอยู่ในระดับราคาไม่แพง และมักจะตามมาด้วยการฟื้นตัวแรง ทั้งนี้ เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์ในช่วงวันหยุดยาวของจีน โดยเริ่มฟื้นตัวแรงระหว่างวันที่ 7-8 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา ราคาของหุ้นที่ถูกกดดันก่อนหน้า เช่น Tencent, Alibaba และ Meituan ปรับตัวขึ้นราว 8-12% ในช่วง 2 วันทำการ

     มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

 
  • ตลาดหุ้นจีนได้ผ่านจุดต่ำสุดของการจัดระเบียบอุตสาหกรรมของภาครัฐไปแล้ว การฟื้นตัวในระยะแรกยังคงเต็มไปด้วยความผันผวน ท่ามกลาง Sentiment เชิงลบและความไม่แน่นอนในตลาด พร้อมทั้งจับตาสัญญาณเชิงบวกจากรัฐบาลจีนในการลดความเข้มข้นในการควบคุมภาคธุรกิจ
  • เมกะเทรนด์ในจีนยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากตลาดที่มีขนาดใหญ่ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และกำลังซื้อที่เร่งตัวขึ้น ในระยะต่อไปศักยภาพของเมกะเทรนด์จะชัดเจนขึ้น สวนทางกับความเสี่ยงเรื่องการจัดระเบียบของภาครัฐที่ลดลง หลังจากบริษัทในอุตสาหกรรมมีการปรับตัวให้เข้ากับนโยบายภาครัฐ เพื่อเข้าถึงโอกาสในการเติบโตของเมกะเทรนด์ในจีน เช่น E-commerce เทคโนโลยี การใช้จ่ายด้านสุขภาพ พลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผู้จัดการกองทุนแนะนำให้ลงทุนในกองทุน KFCMEGA-A ที่เข้าถึงการลงทุนใน 5 เทรนด์ยักษ์ใหญ่ของจีนในกองทุนเดียว

 


นโยบายการลงทุนและคำเตือน

  • KFCMEGA-A เป็นโอกาสในการเข้าถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องหรือได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเมกะเทรนด์ในจีน เช่น การเติบโตของ E-Commerce ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี สังคมผู้สูงอายุ หรือการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นต้น
    กองทุนลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวม ETF ต่างประเทศที่มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนในประเทศจีน และ/หรือมีธุรกิจหลักหรือมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการประกอบธุรกิจในประเทศจีน ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนอย่างน้อย 2 กองทุน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV ระดับความเสี่ยง 6 - เสี่ยงสูง | ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ (โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย ≥ 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ) | กองทุนลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมจึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ข้อมูลกองทุน:  KFCMEGA-A

หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือขอดูหนังสือชี้ชวน โปรดติดต่อ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรีจำกัด โทร 0 2657 5757 หรืออีเมล krungsriasset.clientservice@krungsri.com
เอกสารประกอบเปิดด้วยโปรแกรม Acrobat Reader หากท่านไม่มีโปรแกรมดังกล่าว คลิกเพื่อ ดาวน์โหลด โปรแกรม (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

ย้อนกลับ

ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน