สรุปภาวะตลาดรายวัน


บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด
22/11/2565

ปัจจัยสำคัญ 

  • ตลาดสหรัฐปิดลบเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หลังจากจีนประกาศล็อกดาวน์เขตต่าง ๆ ในกรุงปักกิ่งและอีกหลายเมืองเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19
  • ข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าจีนอาจจะใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 ที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และขัดขวางความพยายามในการเปิดประเทศของจีน
  • อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นนิวยอร์กลดช่วงลบในระหว่างวัน หลังจากนางแมรี ดาลี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโกได้แนะนำให้เจ้าหน้าที่เฟดใช้ความระมัดระวังในการดำเนินนโยบายการเงิน เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ได้ออกมาแสดงความในทางเดียวกับนางดาลี โดยกล่าวว่าเธอสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยน้อยลงในการประชุมเดือน ธ.ค.
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลง โดยหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ถ่วงตลาดลงจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากมาตรการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในจีน
  • กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีนตั้งเป้าเจาะตลาดผู้ขับขี่ในยุโรปและลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ด้วยรถยนต์ราคามิตรภาพ ที่มาพร้อมกับความน่าเชื่อถือด้านความปลอดภัยระดับสูง ทั้งยังพรั่งพร้อมด้วยคุณสมบัติเทคโนโลยีขั้นสูง
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบในวันนี้ โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ หลังจากจีนพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและสั่งล็อกดาวน์หลายพื้นที่ของประเทศ
  • เทศบาลกรุงปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีน สั่งล็อกดาวน์เขตต่าง ๆ หลายแห่ง หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในกรุงปักกิ่งย่ำแย่ลง โดยปักกิ่งรายงานพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 2 รายในวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย. และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 951 ราย ซึ่งเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดของปักกิ่งนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2564
  • นอกเหนือจากเขตต่าง ๆ ในกรุงปักกิ่งแล้ว จีนยังได้สั่งล็อกดาวน์เมืองสือจยาจวง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเหอเป่ย โดยสั่งให้ระงับการเรียนการสอนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย และสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 5 วัน รวมทั้งล็อกดาวน์เขตไป๋อวิ๋นในมณฑลกว่างโจวเป็นเวลา 5 วันเช่นกัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.ไปจนถึงวันที่ 25 พ.ย.
  • สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างข้อมูลจากสำนักงานศุลกากร (GAC) จีนว่า จีนยังคงเพิ่มการนำเข้าพลังงานของรัสเซียในเดือน ต.ค. โดยซื้อก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน น้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์น้ำมันเพิ่มขึ้นแตะระดับเกือบ 6 หมื่นล้านดอลลาร์นับตั้งแต่เกิดสงครามยูเครน จากประมาณ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า
  • SET Index แกว่งตัวในกรอบแคบๆทั้งในแดนบวกและลบ โดยปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย ซึ่งได้แรงหนุนจากจีดีพีไตรมาส 3/65 ที่ออกมาดี ในขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคปิดปรับตัวลดลง โดยตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายมากที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน (-0.02%) ตามด้วยกลุ่มอาหาร (+0.10%) และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (-2.80%) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,524.00 ล้านบาท
  • สภาพัฒน์รายงานเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/65 ขยายตัว 1.2% จากไตรมาสก่อนหน้า และโต 4.5% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน หลังจากในไตรมาส 2/65 โต 0.7% จากไตรมาสก่อนหน้า และโต 2.5% จากไตรมาส 2/64 โดยได้แรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการสกัดโควิด-19 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติมากขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น

มุมมองการลงทุนจาก บลจ.กรุงศรี

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มุมมองต่อเศรษฐกิจไทยมีความน่าสนใจและเป็นไปในทางบวก

สรุปภาพรวมตลาด

  • ต่างประเทศ
    • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,700.28 จุด ลดลง 45.41 จุด หรือ -0.13%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,949.94 จุด ลดลง 15.40 จุด หรือ -0.39% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,024.51 จุด ร่วงลง 121.55 จุด หรือ -1.09%
    • ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 433.06 จุด ลดลง 0.27 จุด หรือ -0.06%
    • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,085.04 จุด ลดลง 12.20 จุด หรือ -0.39%
    • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 35 เซนต์ หรือ 0.44% ปิดที่ 79.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
    • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 14.8 ดอลลาร์ หรือ 0.84% ปิดที่ 1,739.6 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ในประเทศ
    • ดัชนี SET ปิดที่ 1,618.86 บวก 1.48 จุด (+0.09%)
      Trading Volume: 52,580.38 ล้านบาท – มูลค่าการซื้อขายน้อย
    • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปิดปรับขึ้น 1-4 bps แบ่งตามช่วงอายุ ดังนี้
      • อายุ 1-5 ปี ปิดปรับขึ้น 1-2 bps
      • อายุ >5-10 ปี ปิดปรับขึ้น 1-3 bps
      • อายุ >10 ปีขึ้นไป ปิดปรับขึ้น 1-4 bps
      • IRS SWAP ปิดปรับขึ้น 2-11 bps
ที่มา : Bloomberg, Econaday, KSS, Ryt9

กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นดัชนีในประเทศ คลิก: KFS100-A | KFS100SSF | KFS100RMF
กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานที่ดีในประเทศ คลิก: KFDYNAMIC | KFDNMRMF

ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | สำหรับกองทุน SSF/RMF/LTF/Thai ESG ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน|สำหรับกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุนได้ | เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ย้อนกลับ


ลงทุนในกองทุนรวมบลจ.กรุงศรี

บลจ.กรุงศรีมีกองทุนรวมหลายประเภทให้เลือกลงทุนสำหรับทุกเป้าหมายการลงทุน